ศึกหนังโป๊สามมิติ ทีมฮ่องกงชิงแซงฝรั่ง

21.8.53
โดยข่าวสด เมื่อ 20 ส.ค.2553

คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ

การชิงประกาศตัวของทีมภาพยนตร์ฮ่องกง ว่าจะสร้างหนังโป๊สามมิติ "เรื่องแรกของโลก" บ่งบอกถึงกระแสหนัง "ทรีดี" (3D) ที่มาแรงในโลกแผ่นฟิล์ม

ราวกับจะตอกย้ำว่า พัฒนาการต่อไปของบรรดาสื่อบันเทิงไม่ว่า โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือภาพยนตร์จะมาเทไปทางสามมิติ

การโปรโมตของทีมสร้างหนังฮ่องกง เป็นการ "ตัดหน้า" ทีมงานของโลกตะวันตก ทั้งค่ายฮัสเลอร์ เจ้าวงการสื่อโป๊เปลือยของอเมริกา และ นายตินโต บราส ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิตาลี ประกาศไว้เช่นกันว่า จะหยิบหนังอีโรติกเรื่อง Caligula ปี ค.ศ.1979 มาปัดฝุ่นสร้างใหม่ในรูปแบบสามมิติ

สตีเฟ่น ชิว ผู้อำนวยการฮ่องกง กล่าวถึงหนังของตนเอง เรื่อง 3-D Sex and Zen : Ex treme Ecstasy (เซ็กซ์และเซน เคลิบเคลิ้มยิ่งยวด ในรูปแบบสามมิติ) ที่จะเป็นหนังโป๊เรื่องแรกของโลก ว่า ใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท

นำแสดงโดยสองดาราญี่ปุ่น 

ยูกิโกะ ซูโอะ กับ 

ซาโอริ ฮาระ 

มีเนื้อหาออกแนวขำขันปนอีโรติก

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มผู้ตกอยู่ท่ามกลางวังวนกามโลกีย์ แต่สุดท้ายตระหนักว่า ภรรยาเก่าเป็นผู้ที่หวังดีกับตนที่สุด ฉากหวือในหนังมีทั้งแบบหมู่ สลับคู่สวิงกิ้ง ในสถานที่หรูหรา อลังการ

หนังมีกำหนดออกฉายในเดือนพ.ค.ปีหน้า ในตลาดเอเชีย รวมไปถึงยุโรป และสหรัฐ แต่รู้ดีว่า คงไปฉายเปิดเผยในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ได้

กระแสภาพยนตร์สามมิติตื่นตัวขึ้นมาตั้งแต่เรื่อง "อวตาร" ของผู้กำกับฯ เจมส์ คาเมรอน ตามด้วย อลิส อิน วอนเดอร์แลนด์ ของทิม เบอร์ตัน

แม้สองเรื่องทำรายได้ดีทั่วโลก จนเป็นแรงบันดาลใจว่า หนังสามมิติมีอนาคตไปได้ดี แต่นิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ของอังกฤษ ตั้งประเด็นว่า จริงๆ คงไม่ใช่อย่างนั้น

อีโคโนมิสต์ อ้างรายงานของ นิวยอร์กไทมส์ ที่ไปรวบ รวมความคิดเห็นของนักบริโภคชาวอเมริกันทั้งหลาย พบว่า ภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติไม่ได้เจิดจรัสอย่างที่เข้าใจกัน

หนังมีราคาแพง เนื่องมาจากต้นทุนการถ่ายทำที่สูงขึ้น

บรรดาเจ้าหน้าที่กองถ่ายก็บ่นฝากมาว่า ใช้กล้องถ่ายทำยาก เพราะต้องมานั่งเอากล้องจ่อถ่ายจากจอโทรทัศน์อีกทีเพื่อนำไปทำระบบ 3 มิติ

ภาพที่ออกมาจึงดูมืดๆ มัวๆ ทำให้บรรดากองถ่ายรู้สึกไม่ค่อยได้อารมณ์นัก ส่งผลให้มีภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติส่วนใหญ่ถ่ายทำออกมาไม่ได้คุณภาพ

และที่น่าคิดกว่านั้นก็คือ ผู้ชมส่วนใหญ่ชอบดูหนังสามมิติในรูปแบบสองมิติ ไม่ต้องปรับตัวปรับตาให้เสียเวลา

ดังนั้น เมื่อบวกลบคูณหารแล้ว ผู้ผลิตฮอลลีวู้ดต้องคิดให้ดีว่า จะเสียเงินสร้างหนังสามมิติที่สูงแต่กลับได้ผลงานแย่กว่าเดิมหรือไม่

แต่กระแสเห่อหนังสามมิติตอนนี้ อาจทำให้ฮอลลีวู้ดไม่สนใจคำวิจารณ์เรื่องคุณภาพ มากไปกว่าความต้องการของตลาด

ในขณะที่หนังสามมิติต้องใช้งบลงทุนเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 10-15 เมื่อเทียบกับสองมิติ ผู้สร้างอาจไปตัดลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นได้

การที่ราคาตั๋วไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก อาจทำให้ผู้สร้างโกยเงินได้ง่ายๆ จากการโปรโมตว่า "นี่นะ...คือหนังสามมิติ"

ข้อดีอีกอย่างของหนังสามมิติ ก็คือลดปัญหา "แผ่นผี" ได้ เนื่องมาจากลอกไม่อาจรักษาคุณภาพขณะฉายในระบบ 3 มิติไว้ได้เท่าเดิม

หนังสามมิติบางเรื่องอาจไปได้ไม่สวยในอันดับหนังขายดี หรือบ๊อกซ์ ออฟฟิศ รวมไปถึงยอดขายดีวีดี แต่เทียบไปแล้ว หนังสองมิติคุณภาพดี ก็อาจทำยอดขายได้ไม่มาก

จึงเชื่อว่า กระแสคลั่งไคล้หนังสามมิติจะเดินต่อไป อย่างที่ได้เห็นในหนังโป๊สามมิติของฮ่องกงเรื่องนี้

หน้า 7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น