ต้นตะกู พืชโตเร็ว

22.11.52

Miracle Tree ต้นไม้มหัศจรรย์

 คุณลักษณะพิเศษของ ต้นตะกู

เป็น ไม้ที่มีขนาดใหญ่ ปลูกง่าย ดูแลง่าย และโตเร็วมาก ทนต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของทุกสภาวะอากาศ ยกเว้นพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัดตลอดปี เนื่องจากตะกูเป็นไม้เมืองร้อน ต้นตะกูสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศ
ทนต่อสภาวะน้ำท่วมขัง (1 ปีขึ้นไป)
และโดนไฟป่าไม่ตาย (อายุ 2 ปีขึ้นไป)
สามารถปลูกได้ไร่ละประมาณ 150 ต้น ที่ความห่าง 3 x 3 ม. (กรณีตัดครั้งเดียวที่ 5 ปี)

ไม้ตะกู เป็นไม้ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม
ดังนั้นไม้นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะทำเป็น ป่าไม้เศรษฐกิจ
ไม้ตะกู มีน้ำหนักเบากว่าไม้ประดู่ และไม้มะค่า
ถึง จะเป็นไม้เนื้ออ่อน แต่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับไม้สักแทบทุกประการ โดยเฉพาะเนื้อไม้ของต้นตะกูจะมีคุณภาพใกล้เคียงกับไม้สักทอง มีเนื้อไม้ละเอียดแน่นไม่บิดงอง่าย
มีน้ำหนักใกล้เคียงกับไม้สัก แต่จะเบากว่าเล็กน้อย ปลวก มอดไม่กิน (พันธุ์ก้านแดง)
เนื้อไม้ดูสวยมาก การทำสีและผิวสามารถเพิ่มความสวยงามได้อย่างมากเช่นเดียวกับไม้สัก

เพียงปีเดียวก็สามารถตัด ทำไม้เยื่อกระดาษได้เพราะอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วมาก
ส่วนในปีที่ 3 สามารถตัดบางส่วนเพื่อส่งแปรรูปทำเป็นไม้หน้า 4 - 8
และที่เหลือปลูกทิ้งไว้ห้าปีขึ้นไปก็สามารถนำมาแปรรูปเป็นไม้กระดาน
ใช้ทำฝ้าเพดาน ไม้ตกแต่งภายใน เสาบ้าน ประตู หน้าต่าง วงกบ ไม้อัด
งานเฟอร์นิเจอร์หลากหลาย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา เรือขุด ลังใส่ของ เครื่องดนตรี ฯลฯ
งานฝีมือที่สวยงามต่าง ๆ เช่นกล่องใส่จิวเวอรี่ ของตกแต่งบ้านต่าง ๆ ด้ามปืน ดินสอ ของเล่น ฯลฯ
ไม้ตะกูจัดเป็นไม้มงคล ที่ถูกกล่าวถึงอยู่ในตำนานเทพต่าง ๆ มากมาย


ปัจจุบัน นี้ ปริมาณป่าไม้ที่ลดลงทุกขณะและอัตราประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ความต้องการใช้ไม้เพื่อที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมต่าง ๆ สวนทางกัน โรงเลื่อยและผู้ค้าไม้ทั่วโลกขาดแคลนไม้ท่อนที่ป้อนเข้าโรงงาน
โดยเฉพาะไม้เพื่อทำบ้านเรือน และเฟอร์นิเจอร์
ไม้ตะกูนี้จะสามารถช่วยเพิ่มปริมาณไม้ในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หาก ท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีที่ดินปล่อยทิ้งว่างเปล่าไว้ ท่านสามารถปลูกไม้ตะกู ซึ่งเป็นป่าไม้เศรษฐกิจยุคใหม่นี้ได้ ลงทุนน้อย แต่มีผลกำไรงาม มีหลักประกันเรื่องแหล่งรับซื้อผลผลิต และการประกันราคาขั้นต่ำในการรับซื้อ นับว่าเป็นป่าไม้เศษรฐกิจยุคใหม่ และเป็นไม้ที่สามารถกู้วิกฤตเศรษฐกิจในครอบครัวของท่านได้จริง


ไม้ตะกูอาจไม่คุ้นหู เพราะใกล้จะสูญพันธุ์จากป่าของประเทศไทยแล้ว
ป่าไม้ชนิดนี้มีขึ้นอยู่ทั่วไปในแถบภูมิภาคเอเซีย
มีมากทั้งในอินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย


ในอดีต ตะกูเป็นพืชที่มีอยู่ในป่าไม้เมืองไทยเป็นจำนวนมาก แต่ถูกตัดเพื่อนำมาใช้ประโยชน์กันมากมาย
ตะกูนั้นเพาะเมล็ดยาก ต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินและอุณภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น
จึงไม่สามารถขึ้นได้เอง นอกเสียจากว่าต้นแม่พันธุ์จะอยู่ในพื้นที่ ที่เหมาะสมจริง ๆ
แต่เมื่อเพาะเมล็ดจนงอกเป็นต้นกล้าแล้ว หลังจากนั้นก็เลี้ยงง่ายและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
และไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ยิ่งถ้าได้ลงดินแล้วจะแข็งแรง และมีระบบการหาอาหารที่เก่งมากเป็นพิเศษ
ต้นตะกู ปลูกง่าย โตเร็ว สูง 15 – 30 เมตร ทนต่อสภาวะน้ำท่วมขัง และโดนไฟป่าไม่ตาย
ปลูกได้ทุกพื้นที่ ที่ลุ่ม ที่ใกล้น้ำ ที่เชิงเขา ริมสวน ริมสระน้ำ ดินลูกรัง ดินร่วน ดินทราย
ดังนั้นในอดีตเมื่อถูกตัดหมดไป และไม่ได้มีการปลูกทดแทน ต้นตะกูจึงค่อย ๆ หมดไป
จนคนไทยในปัจจุบันแทบจะไม่รู้จักกันสักเท่าไหร่
ทั้ง ๆ ที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่างเช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปิน นั้น
ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศกันมานานแล้ว


อีกทั้งผลพลอยได้ที่ไม่อาจมองข้ามในการปลูกต้นตะกู ก็คือ
สามารถลดสภาวะเรือนกระจกได้อย่างดี เพราะไม้ชนิดนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถเพิ่มปริมาณปอดของโลกได้อย่างมากมายในระยะเวลาอันสั้น
ปัจจุบัน ต้นตะกูเริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น
และเริ่มปลูกกันบ้างแล้วในหลายพื้นที่ คาดว่าอีก 5 ปี
ประเทศไทยจะมีป่าไม้ขนาดใหญ่ สามารถช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่โลก ลดปัญหาโลกร้อน ฝนตกต้องตามฤดูกาล ปัญหาน้ำป่าไหลหลากจะลดน้อยลง
เพราะเป็นพืชที่มีความอุ้มน้ำสูง ทั้งราก ลำต้น กิ่ง ก้าน และใบ
เพียงท่านเริ่มปลูกในวันนี้ อีก 4 - 5 ปี ข้างหน้า ไม้จะโตกว่าไม้สักที่อายุนับร้อย ๆ ปี
(ไม้สักอายุร้อยกว่าปีตอนนี้ ประเทศไทยไม่ต้องไปพยายามหาอีกแล้วครับ หมดไปนานแล้ว)
และที่สำคัญสามารถสร้างรายได้ ให้กับเจ้าของสวนอย่างงาม
และยังช่วยลดการนำเข้าไม้จากต่างประเทศได้ ปีละหลายหมื่นล้านบาท
ช่วยกอบกู้ทั้งเรื่องของวิกฤตโลกร้อน และวิกฤตเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
เพียงพวกเราร่วมมือร่วมใจกัน ปลูกไม้ตะกูเพื่อทดแทนป่าไม้เดิมที่สูญเสียไป



ไม้ตะกู..ป่าไม้เศรษฐกิจยุคใหม่ ไม้กู้วิกฤต


ปัจจุบัน ไม้..นับว่าเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ทุก วันนี้ ประเทศไทยเราต้องนำเข้าไม้จากต่างประเทศ กันปีละหลายหมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเฟอนิเจอร์ ไม้ตะกูจึงถือเป็นไม้เศรษฐกิจยุคใหม่ เป็นไม้กู้วิกฤตเศรษฐกิจ ที่ลงทุนต่ำ เลี้ยงง่าย โตไว และได้ผลกำไรหลายเท่าตัว นับว่าคุ้มค่าการลงทุนจริง ๆ
อยาก ให้ท่าน ลองดูตารางเปรียบเทียบการลงทุนในหน้าถัดไป ท่านจะพบความมหัศจรรย์ของพืชชนิดนี้ และถ้าลองคำนวณรายได้แล้วจะรู้ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแค่ไหน ยกตัวอย่าง หากปัจจุบันบุตรของท่านกำลังอยู่ในวัยเรียน ถ้าท่านปลูกต้นตะกูตอนนี้ ด้วยเงินลงทุนไม่มากมาย และรอเก็บเกี่ยวผลผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้า ท่านจะมีเงินก้อนสำหรับส่งบุตรหลานของท่าน เรียนโรงเรียนดี ๆ ได้อย่าง สบาย ๆ
ซึ่งในจำนวนเงินเท่ากัน ถ้าหากท่านฝากธนาคารไว้ ยังไงก็ไม่มีทางงอกเงยได้มากเท่ากับ ลงทุนปลูกต้นตะกูอย่างแน่นอน 

------------------------------

จากหัวข้อบทความที่จั่วหัวเรื่องบทความนี้ นับว่าเป็นความเจ็บปวดของเกษตรกรผู้ปลูกตะกูยักษ์เป็นอย่างมาก วงจรการเกษตรของพืชชนิดนี้ถูกมองไปในภาพลบเพียงชั่วข้ามคืน เพียงผลประโยชน์จากอิทธิพลของสื่อ ที่ไม่มีข้อมูลที่แท้จริงอยู่ในมือ แต่สนองตอบค่าจ้างที่นายทุนพืชต่างชนิดกัน ให้นำเสนอด้วยข้อมูลที่ผิดๆ จริงๆแล้วจรรยาบรรณของการเป็นสื่อมวลชน ควรมีและควรตระหนักให้มาก ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของสื่อมวลชนก็ดูยำแย่ ในสายตาของประชาชนอยู่แล้ว มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก เสนอข้อมูลเพียงด้านที่ตนเองชอบ หรือสนองตอบอิทธิพลของนายทุน สิ่งที่ตามมาประชาชนเกิดความสับสนเกิดความเข้าใจผิดๆ อันที่จริงแล้วการที่จะนำเสนอข่าวสารข้อมูลต่อประชาชน ควรมีการคัดกรองที่ดีและถูกต้อง โดยเฉพาะข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับการทำมาหากินของประชาชน เพราะนั่นมันหมายถึงปากท้อง และชีวิตความเป็นอยู่ และมันหมายถึงสภาพของเศรษฐกิจชาติเป็นมหภาค

จาการที่สื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ที่นำเสนอ ทั้งภาพและเสียง ซึ่งประชาชนให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ควรตระหนักเป็นอย่างมาก การนำเสนอภาพลักษณ์ที่เป็นภาพลบของการทำการเกษตรสวนป่าต้นตะกูยักษ์ ที่ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงและผลลัพทธ์ที่ตามมามันจะเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ไม้ต่างชนิดกันก็กระหน่ำโฆษณาเชียร์กันสุดใจขาดดิ้น ด้วยราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง อ้างโครงการที่สวยหรูพาดพิง...บางอย่าง.บางชนิดก็กระหน่ำซื้อโฆษณาเพื่อให้ประชาชนปลูก ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นตัวทำลายดินอย่างที่ทราบอย่างที่เห็นกันทางสื่อโทรทัศน์..

น่าอนาถใจแท้. จริงๆแล้วการมีข้อมูลที่ดีในการทำธุรกิจเกษตร เป็นเรื่องที่ดี แต่การนำข้อมูลที่เป็นภาพลบมาสกัดกันการขยายตัวของพืชโตเร็วอย่างตะกูยักษ์. ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาคิดกัน..ประชาชนที่เพาะตะกูขายตามข้างทาง ก็เป็นประชาชนที่ทำเพื่อปากเพื่อท้องเลี้ยงครอบครัว. ไม่ได้มีสื่อ อยู่ในมือที่จะโจมตีทำลายล้างใครต่อใคร เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ. การนำเสนอข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเอง หรื่อกลุ่มนายทุนที่ว่าจ้าง ไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเป็นอย่างไร. นำเสนออกมาได้อย่างไร"ว่าตะกูยักษ์ทำได้อย่างเก่งแค่ไม่จิ้มฟันหรือกล่องไม้ขีดไฟเท่านั้น นำมาทำโลงศพยังไม่ได้เลย" จากข้อความนี้มันส่ออกมาเลยว่า คนที่นำเอาข้อมูลนี้มาเผยแพร่มันรู้ไม่จริง. เสียดายที่เป็นสื่อของประชาชนที่ประชาชนชื่นชอบ. ไม้ตะกูที่สร้างบ้านเป็นหลังเคยไปดูไปถ่ายเอามาเผยแพร่ไหม? ไม้ตะกูทำเฟอร์นิเจอร์ทำไมไม่ไปถ่ายทำมาเผยแพร่?.ไม้ตะกูทำฟืนชีวมวลผลิตกระแสไฟฟ้าทำไมไม่ไปเอามานำเสนอ?.ภาพที่สมเด็จพระเทพฯทรงปลูกต้นตะกูทำไมไม่ไปนำมาเผยแพร่.ข้อมูลที่อดีตนายกรัฐมนตรีพูดออกรายการโทรทัศน์และวิทยุทำไมไม่เอามาลง?ที่มาของชื่อไม้มหามงคลหรือตะกูยักษ์รู้ไหมใครตั้งชื่อ.

ไม้ตะกูยักษ์เป็นไม้เนื้อปานกลาง เป็นไม้นอกประเภทไม้หวงห้ามก็จริงอยู่ การที่นำเสนอออกทางสื่อว่าปลูกแล้วขายไม่ได้ไม่รู้คิดได้ไง. ลองเอามันสมองของคนทำสื่อคิดดูก็ได้ว่า ขนาดไม้ฉำฉา ไม้ขนุน ไม้มะม่วง ไม้กฐินยักษ์ ไม้ขี้เหล็กโรงเลื่อยยังหาซื้อกันให้ว่อน.สำมะหาอะไรกับไม้ตะกูยักษ์มันจะขายไม้ได้ให้มันรู้ไป.

หรือจะคิดแบบชาวบ้านธรรมด้าธรรมดา แบบตาสีตาสา ที่สื่อไร้จรรยาบรรณพยายามยัดเยียดข้อมูลเพื่อตอบสนอความคิดว่าชาวบ้านเขาไม่ฉลาด แต่หารู้ไม่ว่าเดียวนี้ชาวบ้านเขาคิดเป็น เขาเข้าใจเลือกสรร ลองมาดูตัวอย่างกัน ไม้ตะกูยักษ์ขนาดอายุประมาณ5-7ปี ลำต้นวัดระดับอกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ12-15นิ้ว(โดยเฉลี่ย) ความสูงจะอยู่ที่เฉลี่ย25-28เมตรโดยประมาณ ตัดออกเป็นท่อนซุงขนาดท่อนละ5เมตร หรือเท่ากับ10ศอก เอาท่อนเต็มประสิทธิภาพที่จำนวน4ท่อน หรือคิดที่20เมตรแต่ละท่อนเปิดปีกไม้ออก ใช้เฉพาะเนื้อไม้หลังจากที่เปิดปีกออก เลื่อยเป็นไม้หน้า8นิ้วหนา1นิ้ว จะได้ประมาณ10ตัวหรือเท่ากับ100ศอก(10ศอกx10แผ่น) ถ้าเอามาทำเป็นไม้แบบสำหรับก่อสร้าง ไม้หน้า8หนา1นิ้ว ราคาปัจจุบันคิดที่ศอกละ25-28บาท หรือ1แผ่นเท่ากับ10ศอก คูณด้วย25บาท จะได้ตัวละ250บาท ถ้า1ท่อนได้ไม้10แผ่น(ต้ว) จะได้มูลค่าท่อนละ2500บาท ในขณะเดียวกันไม้ตะกู1ต้นได้ไม้อย่างต่ำ4ท่อน ก็เอา2500คุณด้วย4ท่อนก็จะเท่ากับ10,000บาท นี่คือวิธีการคิดแบบไม้เกรดเดียวกับ ไม้ขนุน ไม้ฉำฉา ไม้มะม่วง หรือไม้นอกประเภทชนิดอื่นที่ใกล้เคียงกัน ที่ใช้ทำงานแบบเดียวหรือแบบคล้ายๆไม้แบบก่อสร้าง.ที่สำคัญอัตราการบิดงอก็ค่อนข้างต่ำกว่าไม้ชนิดอื่น

จากพารากราฟข้างต้น นั่นคือการคิดมูลค่าแบบง่ายแบบไม้เกรดต่ำ แล้วถ้าเรานำมาทำเฟอร์นิเจอร์หรือนำมาใช้งานในเกรดที่อัพขึ้นไปอีกมูลค่าก็จะขยับไมตามมูลค่าชิ้นงาน

โดยเฉพาะที่สำคัญไม้ตะกูยักษ์ เป็นไม้เนื้อปานกลางที่มีความหนาแน่นของเนื้อไม้ ใกล้เคียงกับไม้สักด้วยแล้วละก็ การนำมาทำงานแกะสลักหรืองานฝีมือก็สามารถทำได้ดี เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของไม้ ไม้ทุกชนิดจะมีคุณสมบัติการนำไปใช้งานคล้ายกัน ไม้ที่อายุของไม้ยังไม้โตได้ขนาด ใจไม้ยังไม่โตเต็มที่มันก็เหมือนกันทุกชนิด ถ้าคุณตัดเอามาใช้งานในขณะที่ไม้ยังไม่พร้อมใช้งาน คุณสมบัติของไม้ก็จะด้อยเป็นธรรมดา และมันก็จะใช้งานได้ไม่ดี แต่ถ้าเมื่อใดไม้มีขนาดพร้อมใช้งาน ใจไม้แข็งแรงมันก็มีประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ ตามชนิดของอายุที่พร้อมใช้งานของไม้ชนิดนั้นๆ ในการนำไปใช้งานมันก็ได้ประสิทธิภภาพดี... ต่อให้เป็นไม้สัก ไม้มะค่าโมง ไม้เต็งรัง หรือไม้ชนิดอื่น ที่ว่าดีถ้าอายุของไม้ขนาดของไม้ยังไม่ได้ มันก็ด้อยประสิทธิภาพทำได้อย่างเก่งก็เป็นไม้จิ้มฟันเหมือนกันเช่นกัน มันอยู่ที่ว่าอายุของไม้แต่ละชนิดที่พร้อมจะใช้งานได้ดีหรือไม่มันจะอยู่ที่อายุกี่ปี และนี่เป็นเพียงบทความตัวอย่างคร่าวๆ ที่ได้รับแรงจูงใจจากประสบการณ์จริง ที่ได้สัมผัสมาจากการทำธุรกิจเกษตร ตะกูยักษ์ จากของจริงๆไม่ได้มาสัมผัสเพียงชั่วครู่ชั่วคราวแล้วเอามาเขียน ไม่ได้นั่งเทียนเขียน เพราะทุกถ้อยกระทงความที่พบมาจริงๆด้วยตัวเอง และเสียความรู้สึกมากกับสื่อทำร้ายเกษตรกรผู้ปลูกตะกูยักษ์ซึ่งมันเป็นการทำร้ายจิตใจกันเป็นอันมาก ถ้ารู้ไม่จริงก็กรุณาอย่านำออกมาเสนอ เพราะมันจะเป็นการบอกถึงภูมิปัญญาและการขาดความรับผิดชอบจากผลของการนำเสนอ ของคนที่นำเสนอเอง การเพาะปลูกตะกูยักษ์ ต้องอาศัยเวลา และกว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า อะไรคือจริงหรือไม่จริง ผู้ที่จะทำการเพาะปลูกสวนป่าตะกูยักษ์ก็เสียโอกาส เกษตรกรผู้เพาะกล้าพันธ์ไม้ตะกูยักษ์ก็เสียรายได้ เสียความรู้สึก
เหรียญมีสองด้านเสมอฉันใด อย่ายัดเยียดให้ประชาชนคนทำมาหากินบริโภคสื่อด้วยความไว้เนื้อเชื่อถือ ได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียว เพราะความจริงย่อมปรากฏในที่สุด แต่ผลที่ปรากฎในเบื้องต้น กว่าความจริงจะกระจ่างชัด มันทำร้ายจิตใจเกษตรกร

ก่อนจบบทความนี้ อยากให้คนที่ทำสื่อนำเสนอข้อมูลของต้นตะกูยักษ์ถามตัวเองก่อนว่าคุณรู้จักต้นตะกูยักษ์ดีแล้วหรือยัง คุณเคยปลูกต้นตะกูยักษ์สักต้นไหม.นักวิชาการนักวิชาเกิน ที่กว่าจะตื่นมาดูตะกูยักษ์ชาวบ้านเขาปลูกไปเป็นล้านๆต้นแล้ว รู้ดีแค่ไหน? ชีวิตนี้คุณเคยปลูกตะกูหรือเปล่า ถ้ามันไม่ดีอย่างที่นำเสนอทางสื่อ แล้วเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินพระองค์ท่านจะทรงปลูกทำไม? ตอบให้ฟังทีเถอะ

3 ความคิดเห็น:

  1. *_ขออนุญาตโพสนะครับ_* จำหน่ายกล้าพันธุ์ไม้ป่าทุกชนิด ทุกสายพันธุ์ อาทิเช่น สักทอง ยางนา พะยูง ประดู่
    มะค่า ตะเคียน ราคาไม่แพง จำหน่ายทั้งปลีกและส่งทั่วประเทศ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั่วประเทศกว่ายี่สิบปี
    สนใจติดต่อคุณไก่ 095-4654546 ,0946465654
    ID line kai54654546
    Email nangpaya@hotmail.com
    ชมผลงานและคุณภาพกล้าพันธุ์ไม้ได้ที่ www.takuyak.com
    หรือที่แฟนเพจ คุณไก่กล้าพันธุ์ไม้
    หรือชมคลิปที่ www.youtube.com ช่อง ชัยชนะ เสือเพ็ง
    หรือที่แฟนเพจ ชมรมเกษตรกรผู้ปลูกไม้พะยูงแห่งประเทศไทย

    ตอบลบ