เลี้ยงต่อหัวเสือตามต้นไม้ ไม่ลงทุน-ขายง่าย-ไร้คู่แข่ง

30.9.53
โดยคม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 2551

"ต่อหัวเสือ" นับเป็นแมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่คนทั่วไปมักจะกลัว เพราะเมื่อโดนต่อหัวเสือกัดต่อย จะเจ็บปวดมาก แต่สำหรับชาวบ้านหนองแคน ต. ยอดชาติ อ. วังยาง จ. นครพนม กว่า 10 หลังคาเรือน กลับเลี้ยงต่อชนิดนี้ตามต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ปลายนา และพื้นที่หลังบ้าน เป็นอีกอาชีพซึ่งสร้างรายได้อย่างดี เพราะตัวอ่อนเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ที่สำคัญการเลี้ยงต่อหัวเสือ ไม่ต้องลงทุนอะไร แถมไร้คู่แข่งอีกด้วย

สุวรรณ หงส์สา เกษตรกรวัย 41 ปี จากบ้านหนองแคนอีกผู้หนึ่งที่เลี้ยงต่อหัวเสือ บอกว่ายึดอาชีพนี้มากว่า 10 ปีแล้ว โดยรวมกลุ่มกับเพื่อนกว่า 10 ครอบครัว เนื่องจากเห็นว่าชาวอีสานชอบบริโภคตัวอ่อนต่อหัวเสือ แต่ที่ผ่านมาต้องหารังต่อตามธรรมชาติเท่านั้น จึงคิดว่าน่าจะเลี้ยงเพื่อขายตัวอ่อน จึงชวนเพื่อน ๆ ลองเลี้ยงดู ปรากฎว่าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก มีตลาดแน่นอน และไม่มีคู่แข่ง ที่สำคัญการเลี้ยงไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงออกแรงไปหารังต่อหัวเสือในป่ามาเลี้ยงบนต้นไม้ตามปลายนา หรือพื้นที่หลังบ้าน

"ผมมีที่ทำกินราว 10 ไร่ เลี้ยงปลา 2 บ่อ อีกส่วนหนึ่งปลูกข้าว ในนาข้าวปล่อยปลาตะเพียนด้วย ที่ว่างเปล่าผมปลูกกล้วยและปลูกพืชสวนครัวไว้กินเอง ในที่ของผมมีต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ตอนหลังจึงทดลองนำรังต่อหัวเสือมาเลี้ยงไว้ ปรากฎว่าเป็นที่ต้องการของตลาด จึงขยายเพิ่มขึ้น ตอนนี้ผมเลี้ยงไว้ราว 30-40 รัง" สุวรรณกล่าว

วิธีการเลี้ยงนั้น เขาบอกว่า เริ่มเลี้ยงกันเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงก่อนปักดำนาปี โดยเขาและเพื่อนบ้านจะออกหารังต่อหัวเสือตามป่าใกล้ ๆ หมู่บ้านในตอนกลางวัน โดยเริ่มจากริมหนองน้ำ ซึ่งสังเกตุจากตัวต่อจะออกมาหาอาหารพวกเศษปลาตาย พอได้อาหารเพียงพอ แม่ต่อจะนำอาหารบินกลับไปรัง จึงสังเกตุว่าแม่ต่อตัวนั้น ๆ จะบินไปทิศทางไหน จากนั้นจึงตามไป ใช้เวลาไม่มากก็จะพบรังต่อที่ทำรังตามต้นไม้ เมื่อพบแล้วตกกลางคืนซึ่งมีอันตรายน้อย เพราะตัวต่อเข้าไปนอนในรัง จึงจัดการเพื่อนำกลับมาเลี้ยงที่ต้นไม้ของตัวเอง

"การกำจัดรังต่อเพื่อนำกลับมาเลี้ยง อันดับแรกต้องสวมเสื้อหนา ๆ สวมไอ้โม่งป้องกันไว้ก่อน จากนั้นปีนขึ้นต้นไม้ พอถึงรังต่อ ก็ใช้เศษผ้าที่เตรียมไว้มายัดรูเข้า-ออกของตัวต่อ ซึ่งมีเพียงรูเดียว แล้วนำกระสอบไปคลุมรังอีกชั้น ก่อนจะตัดขั้วรังต่อกับกิ่งไม้ มัดปากกระสอบให้แน่น นำกลับมาบ้าน นำขั้วรังต่อไปมัดติดกับกิ่งไม้ที่ปลายทุ่งนาหรือหลังบ้าน จากนั้นถอดกระสอบคลุมและเศษผ้ายัดรูเข้า-ออกรังต่อออกมา จึงเสร็จกระบวนการ ทั้งหมดต้องทำตอนกลางคืนเท่านั้น รุ่งเช้าตัวต่อก็ออกหากินตามปกติโดยไม่กัดต่อยคนแต่อย่างใด" สุวรรณกล่าวอย่างมั่นใจ

การเลี้ยงต่อใช้เวลา 3-6 เดือน หรือราวเดือนกันยายนจนถึงปีใหม่ รังต่อจะโตเต็มที่ จึงจะมีลูกค้ามาจองซื้อในราคารังละ 500-600 บาท ซึ่งการเก็บผลผลิตจากรังต่อหัวเสือมอบให้ลูกค้าจะทำในเวลากลางคืน โดยนำคบไฟลนที่รังเพื่อไล่ตัวแม่ต่อออกจากรังจนหมด แล้วก็นำรังต่อมี่มีลูกต่อเต็มรัง มอบให้ลูกค้าตามที่ตกลงกันไว้ แต่ต้องระวังด้วย เพราะถ้าพลาดท่าตัวต่อหัวเสือจะกัดต่อยมีอาการเจ็บปวดมาก

"ลูกอ่อนของตัวต่อนั้น ลูกค้าชอบมาก เพราะมีรสชาติมัน อร่อยมาก มีโปรตีนสูง เราสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลายรูปแบบ เช่น นึ่ง ลาบ หมก แกงลาว เป็นต้น" สุวรรณกล่าว

นับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายคนมองข้าม เนื่องจากมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร เพราะต่อหัวเสือถือเป็นแมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ทำให้คนเกิดความกลัว แต่หากทำด้วยความระมัดระวังก็จะสร้างรายได้เสริมให้แก่ชาวบ้านได้ดีพอสมควร

1 ความคิดเห็น: