โดย bsnnews.com เมื่อ 12 มี.ค.53
สถาพร และ เยาวลักษณ์ ฉายะโอภาส
เจ้าของฟาร์มไส้เดือนมิตรใหม่ เล่าว่า การเริ่มต้นทำฟาร์มไส้เดือน เกิดจากความสนใจในคุณประโยชน์ของไส้เดือน โดยเฉพาะมูลของมัน ที่สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยชีวภาพได้ โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งในต่างประเทศได้มีการทำวิจัยเรื่องนี้มานาน
นายสถาพรจึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงวิธีการเลี้ยงไส้เดือน ซึ่งทั้ง 2 สถาบันนี้ได้ทำการวิจัยมาตั้งแต่ปี 2534 แต่คนไทยรู้จักและรู้ถึงคุณประโยชน์ของไส้เดือนเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา
รวมถึงมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ที่มีการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อทำปุ๋ยอยู่ก่อนแล้ว จึงนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดสู่การผลิตปุ๋ยจากมูลและปัสสาวะของไส้เดือน
“ในช่วงแรกผมไม่คิดที่จะเลี้ยง ไส้เดือนเพื่อทำเป็นธุรกิจ เพียงแต่ต้องการลดต้นทุนค่าอาหารปลาสวยงาม ที่เลี้ยงไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผมคิดว่าหากสามารถเพาะพันธุ์ไส้เดือนเองได้ ราคาน่าจะถูกกว่าการไปซื้อตามร้าน จนได้ไปขอคำแนะนำวิธีการเลี้ยงจากสถาบันอุดมศึกษา ทำให้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามูลของไส้เดือนก็มีประโยชน์เช่นกัน โดยสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงเมื่อนำไปใส่ไม้ดอกจะเจริญเติบโตได้ดีมาก”
เมื่อทั้งคู่ได้ศึกษากระบวนการเลี้ยงไส้เดือนอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ปุ๋ยชีวภาพ 100% ก็นำมาใส่ต้นไม้ที่บ้านของตัวเอง และแจกให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนมีคนมาขอซื้อ พร้อมกับแนะนำให้ทำขาย จึงตัดสินใจทำส่งขายตามร้านขายต้นไม้ โดยที่ยังไม่มีแบรนด์ แต่เมื่อคู่ค้าบางรายได้นำปุ๋ยจากมูลไส้เดือนของทั้งคู่ไปผสมกับปุ๋ยตัวอื่น ทำให้ด้อยคุณภาพไป ลูกค้าไม่มีการซื้อซ้ำ
รวมถึงไปสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้า ที่บอกกันปากต่อปากว่าปุ๋ยไส้เดือนไม่ดี ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจปุ๋ยจากมูลไส้เดือนถูกมองในแง่ลบ ทำให้สถาพร ตัดสินใจสร้างแบรนด์ปุ๋ยมูลไส้เดือนว่า “น้องเดือน” เพื่อลดปัญหาการปลอมปน และลบล้างความเชื่อผิดๆ ของลูกค้า เน้นส่งขายตามร้านขายต้นไม้ ไม้ดอกดอก ไม้ประดับทั่วไป ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อให้ได้ปุ๋ยทั้ง 2 ชนิดนี้ เริ่มจากการไส้เดือนพันธุ์ที่คนทั่วไปนิยมเลี้ยง ได้แก่ พันธุ์ขี้ตาแร่ พันธุ์อาฟริกัน พันธุ์สีน้ำเงิน และพันธุ์ลายเสือ ซึ่งราคาไส้เดือนพ่อแม่พันธุ์อยู่ที่ 1,500 บาท/กก. นำไปเลี้ยงไว้ในกล่องพลาสติก ให้อาหารโดยการทิ้งเศษอาหาร เศษหญ้า ใบไม้
และเมื่อมูลของไส้เดือนที่ขับถ่ายออกมาก็จะได้ปุ๋ยมูลไส้เดือน ในขณะที่น้ำหมักมูลไส้เดือนที่สามารถนำไปใช้พ่นทางใบราก หรือผสมน้ำในอัตรา 1:10 ใช้รดน้ำต้นไม้ทั่วไปได้ หรือแม้กระทั่งนำไปราดขยะอินทรีย์เพื่อลดกลิ่น และใช้บำบัดน้ำเสีย หรือบ่อกรองในบ่อเลี้ยงปลาได้ ซึ่งการทำน้ำหมักมูลไส้เดือนนั้น เกิดจากการให้ไส้เดือนกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ซึ่งจะมีส่วนประกอบของน้ำ โดยไส้เดือนจะขับถ่ายออกมา ซึ่งในปัสสาวะของไส้เดือนประกอบด้วยจุลินทรีย และแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งพืชสามารถดูดซับนำไปใช้งานได้ทันที โดย
- ราคา ขายปุ๋ยหมักอยู่ที่ 60 บาท/กก.
- ส่วนน้ำหมักอยู่ที่ขวดละ 45 บาท
ที่ผ่านมาลูกค้าที่ได้ทดลองซื้อไปใช้กับต้นไม้ของตนเองแล้วได้ผล ก็มีการกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้ที่ต้องการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเอง เพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจ และเลี้ยงไว้เพื่อกำจัดเศษอาหารในบ้าน และใช้มูลไส้เดือนมาทำเป็นปุ๋ย ทำให้สถาพร ผลิตชุดเลี้ยงไส้เดือนราคาย่อมเยา คือ 1,200 บาท ผู้ซื้อจะได้กล่องพลาสติก และพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนครึ่งกิโลกรัม และภายใน 3 เดือน ไส้เดือนจะขยายพันธุ์เองเป็น 5 เท่าของไส้เดือนครึ่งกิโลกรัม ส่วนการให้อาหารเพียงให้เศษอาหารที่ผู้เลี้ยงรับประทานเหลือในแต่ละมื้อให้ กับไส้เดือนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ และช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง
สนใจติดต่อ
08-6599-9958, 08-6889-9909
หรือ
www.baankhongdee.pantown.com
ผมได้ดูจากรายการ SME ตีแตกแล้วดีมากครับไม่มี่ความรู้เรื่องนี้มากนักแต่ทำไดีมากครับเอาใจช่วยครับ
ตอบลบ