“ธีรพงศ์ เพชรรัตน์”
ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจที่จะนำไปประกอบอาชีพด้านการเกษตร เพราะเห็นว่ามีที่มรดกที่บ้านเกิดหมู่ 3 ต.บางเขียด อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเป็น
ที่นาเก่า 8 ไร่
ควรที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์และก่อให้รายได้เสริม แต่เนื่องจากยังมีอายุราชการเกือบ 20 ปี เขาจึงตัดสินใจ
ปลูกไม้ยืนต้น 4 ไร่ แซมด้วยไผ่ตงลืมแล้ง
ปรากฏว่าเพียง 8 เดือน ไผ่ตงลืมแล้งออกหน่อเก็บขายได้ถึงวันละ 100 หน่อ มีรายได้วันละ 5,000 บาท
ขณะที่กิ่งพันธุ์ขายได้เดือนละกว่า 200 กิ่ง ราคากิ่งละ 200 บาท
ธีรพงศ์บอกว่า คนที่มีอาชีพกินเงินเดือนโดยเฉพาะข้าราชการทุกคน พอมีอายุ 40 ปีขึ้นไป นึกถึงความมั่นคงในอาชีพหลังเกษียณ บางคนจึงหาซื้อที่เพื่อทำการเกษตรในบั่นปลาย แต่เขาเองมีที่ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากมรดกของครอบครัว 8 ไร่ จึงเลือกปลูกไม้ยืนต้นโตเร็ว
ธีรพงศ์บอกว่า คนที่มีอาชีพกินเงินเดือนโดยเฉพาะข้าราชการทุกคน พอมีอายุ 40 ปีขึ้นไป นึกถึงความมั่นคงในอาชีพหลังเกษียณ บางคนจึงหาซื้อที่เพื่อทำการเกษตรในบั่นปลาย แต่เขาเองมีที่ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากมรดกของครอบครัว 8 ไร่ จึงเลือกปลูกไม้ยืนต้นโตเร็ว
ส่วนหนึ่งคิดว่ายังเหลืออายุราชการอีกเกือบ 20 ปี ช่วงเกษียณอายุสามารถตัดขายทำเป็นทุนได้ อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าป่าไม้ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว
จึงปลูกต้นมะฮอกกานีราว 1,000 ต้น พอต้นมะฮอกกานีเริ่มโตก็ยังเห็นว่า ช่วงระหว่างต้นไม้ ยังมีพื้นที่เหลือว่างเปล่า น่าจะทำประโยชน์ได้ จึงศึกษาข้อมูลพืชเศรษฐกิจจากแหล่งต่างๆ พบว่าในพื้นที่ภาคใต้มีการบริโภคหน่อไม้ไม่แตกต่างไปจากภาคอื่น แต่ไม่มีพื้นที่ปลูกเลย หรืออาจมีบ้าง ประปรายรายเล็กปลูกตามหลังบ้านปลายสวน จึงไม่มีการบันทึกข้อมูลว่ามีพื้นที่ปลูกไผ่เป็นอาชีพ
“ผมตัดสินใจจะปลูกไผ่ เลยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไผ่ทุกชนิด พบว่าไผ่ตงที่เหมาะที่สุด มีหลายสายพันธุ์ แต่มีสายพันธุ์ที่น่าสนใจคือชาวบ้านเรียกว่า
“ผมตัดสินใจจะปลูกไผ่ เลยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไผ่ทุกชนิด พบว่าไผ่ตงที่เหมาะที่สุด มีหลายสายพันธุ์ แต่มีสายพันธุ์ที่น่าสนใจคือชาวบ้านเรียกว่า
ไผ่ตงลืมแล้ง
คือจะออกหน่อทั้งปี แม้ฤดูแล้ง ซึ่งไผ่ชนิดอื่นไม่ค่อยออกหน่อในช่วงหน้าแล้ง ผมจึงไปหาซื้อกิ่งพันธุ์มาจาก จ.พัทลุง ปลูกทั้งหมด
ในพื้นที่ 4 ไร่ จำนวน 400 กอ
ในปี 2551 ไผ่ชนิดนี้คุณสมบัติคือโตเร็ว ได้ผลเร็ว และไม่ต้องดูแลรักษามาก เหมะกับผมที่มีอาชีพรับราชการ
ที่สำคัญหน่อมีรสชาติดี หวานกรอบอร่อย เปลือกบาง ไม่มีเสี้ยน ไม่มีขนปกคลุม เวลาแกะเอาเนื้อในสะดวก ขนาดหน่อโตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 1-3 กก.ตอนนี้ผมกลายเป็นผู้บุกเบิกในการปลูกไผ่ตงพันธุ์ลืมแล้ง ที่ทำเป็นกิจลักษณะและเป็นผู้ปลูกรายใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา” ธีรพงศ์ กล่าว
ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง บอกอีกว่า หลังจากที่
ลงไผ่ตงทนแล้งได้ 8 เดือน ต้นไผ่แตกหน่อเป็นต้นไผ่กอละ 5-6 ต้น ก็สามารถเก็บหน่อไผ่หรือหน่อไม้บริโภคได้ หรือเก็บขายได้
ปัจจุบันไผ่ตงลืมแล้ง 400 กอ สามารถเก็บขายได้วันละไม่น้อยกว่า 100 หน่อ หนัก 100 กก.จะมีพ่อค้ามาซื้อถึงที่ อย่าง
-หน้าแล้งราคา กก.ละ 35-45 บาท ขายปลีก กก.ละ 40-50 บาท
-ทั่วไปขายส่งที่สวน กก.ละ 25-30 บาท ขายปลีกราว กก.ละ 35 บาท
- หน้าฝนมีหน่อไม้จากไผ่ป่า และที่อื่นออกหน่อเยอะราคาตกอยู่ที่ กก.ละ 15-20 บาท
เฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ กก.ละ 25 บาท
นอกจากมีรายได้จากการตอนกิ่งพันธุ์ขายด้วยเดือนละ 200-300 กิ่ง ขายในราคากิ่งละ 200 บาท
แต่ผู้ซื้อต้องจองล่วงหน้า เพราะผลิตไม่ทันนั่นเอง
“หน่อไม้ที่ขายในตลาดภาคใต้ ถูกส่งมาจากพื้นที่อื่น เช่น สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลาง ทำให้ตอนนี้หน่อจากสวนผมเป็นที่ต้องการของตลาด มีเท่าไรขายหมด ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผมจึงแนะนำว่าหากใครมีที่ควรปลูกไว้อย่างหลังบ้าน หรือรอบสวนยางพาราก็ได้ เป็นอาชีพเสริมเพราะรายได้มีตลาดแน่นอน” เขายืนยัน
ที่สำคัญหน่อมีรสชาติดี หวานกรอบอร่อย เปลือกบาง ไม่มีเสี้ยน ไม่มีขนปกคลุม เวลาแกะเอาเนื้อในสะดวก ขนาดหน่อโตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 1-3 กก.ตอนนี้ผมกลายเป็นผู้บุกเบิกในการปลูกไผ่ตงพันธุ์ลืมแล้ง ที่ทำเป็นกิจลักษณะและเป็นผู้ปลูกรายใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา” ธีรพงศ์ กล่าว
ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง บอกอีกว่า หลังจากที่
ลงไผ่ตงทนแล้งได้ 8 เดือน ต้นไผ่แตกหน่อเป็นต้นไผ่กอละ 5-6 ต้น ก็สามารถเก็บหน่อไผ่หรือหน่อไม้บริโภคได้ หรือเก็บขายได้
ปัจจุบันไผ่ตงลืมแล้ง 400 กอ สามารถเก็บขายได้วันละไม่น้อยกว่า 100 หน่อ หนัก 100 กก.จะมีพ่อค้ามาซื้อถึงที่ อย่าง
-หน้าแล้งราคา กก.ละ 35-45 บาท ขายปลีก กก.ละ 40-50 บาท
-ทั่วไปขายส่งที่สวน กก.ละ 25-30 บาท ขายปลีกราว กก.ละ 35 บาท
- หน้าฝนมีหน่อไม้จากไผ่ป่า และที่อื่นออกหน่อเยอะราคาตกอยู่ที่ กก.ละ 15-20 บาท
เฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ กก.ละ 25 บาท
นอกจากมีรายได้จากการตอนกิ่งพันธุ์ขายด้วยเดือนละ 200-300 กิ่ง ขายในราคากิ่งละ 200 บาท
แต่ผู้ซื้อต้องจองล่วงหน้า เพราะผลิตไม่ทันนั่นเอง
ก็นับเป็นพืชที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่งสำหรับในพื้นที่ภาคใต้ เพราะดูเลขของรายได้ดี สนใจอยากปลูกปรึกษาธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ได้ที่ โทร.08-3195-0811, 08-1606-4513 “สมชาย สามารถ “
อยากปลูกบ้างจังเรย
ตอบลบwww.knetshop.com/knet_information/www.php?5552
ตอบลบไม่ทราบว่าตอนนี้ราคากิ่งพันธ์ยังเท่าเดิมหรือเปล่าถ้าสั่งจำนวนมากจะถูกลงไหมคะ รบกวนช่วยส่งเมล์ sunshineswift@windowslive.com
ตอบลบ