กาแฟขี้ชะมด สุดยอดแห่งรสชาติ

3.10.54
ว่าด้วย สายพันธุ์กาแฟ

ในปัจจุบัน วัฒนธรรมการทานกาแฟ กลายเป็นที่แพร่หลายมากมายทั่วโลก เริ่มมีผู้ที่ให้ความใส่ใจกับรสชาติลุ่มลึกนี้ขนาด ทำให้กาแฟในปัจจุบันยิ่งมีความเจาะจงในที่ปลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีการระบุถึงประเทศ ภูมิภาค และบางครั้งต้องบอกว่าปลูกที่พื้นที่บริเวณไหนเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟอาจจะถึงกับต้องประมูลกาแฟกันเลย โดยดูว่าเป็นล็อตหมายเลขเท่าใด เหล่าเกษตรกรบางครั้งการใส่ปุ๋ยต้นกาแฟ ยังต้องดูแสงเงาจากพระจันทร์เลยทีเดียว

กาแฟแต่ละสายพันธุ์ จะถูกเรียกชื่อตามแหล่งที่ปลูกมันขึ้นมา ตัวอย่างชื่อพันธุ์ที่เราคุ้นๆ เช่น

จาไมกา เป็นแหล่งผลิตกาแฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก บลูเมาน์เทน ซึ่งปลูกบนยอดเขาสูง ผลผลิตเกือบทั้งหมดถูกส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น และที่เหลืออีกเล็กน้อยถูกส่งไป สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, และเยอรมนี ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงคือ ไฮเมาน์เทนซูพรีม (Hign Mountain Supreme) และ ไพรม์วอชท์จาไมกัน (Prime Washed Jamaican)

บราซิล ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 1 ของโลก ยี่ห้อมีชื่อคือ บราซิเลียน ซานโตส (Brazillian Santos)
โคลัมเบีย ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 2 ของโลก กาแฟที่มีชื่อคือ ซูรีโม (Suremo)
ฮาวาย กาแฟขึ้นชื่อคือ โคน่า (Kona)ชวา [Java] วิธีการเฉพาะของที่นี่คือ การบ่มในโกดังพิเศษเพื่อให้เมล็ดกาแฟเปลี่ยนสี และมีรสชาติที่ดี

อินโดนีเซีย

สุมาตรา ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า กาแฟแมนเฮลิงและอันโกลาของชวา มีรสชาติดีกว่าบลูเมาน์เทนและโคน่าเสียอีก
อินเดีย มีกาแฟรสชาติเฉพาะตัว ชื่อมอนซูน มาลาบาร์ (Monsooned Malabar)

เอธิโอเปีย ประชากร 1 ใน 4 ของประเทศมีรายได้จากอุตสาหกรรมกาแฟ กาแฟที่นี่มีลักษณะเฉพาะเนื่องจากมีกาแฟป่าปะปนอยู่ แต่นี่ก็เป็นสาเหตุให้รสชาติมีความไม่แน่นอนสูงด้วยเช่นกัน กาแฟที่มีชื่อเสียงคือ ฮารา ลองเบอรี่ (Harrar Longberry) , ซีดาโม (Sidamo) , และคาฟฟา (Kaffa)
เคนยา [Kenya] พิถีพิถันเรื่องคุณภาพมาก กาแฟที่มีคุณภาพที่สุดคือ "เคนยา AA"
ซึ่งในแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรสชาติ และกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพันธุ์
บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในแต่ละสายพันธุ์ ก้มีความประณีตแตกต่างกันไป

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นกาแฟสายพันธุ์ธรรมดา ทั่วไป
มีกาแฟสายพันธุ์หนึ่ง ได้ชื่อว่า รสชาติลึกล้ำ และแพงที่สุดในโลกอีกด้วย

Kopi Luwak หรือ กาแฟขี้ชะมด
คำว่า Kopi ในภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า กาแฟ
ส่วน Luwak หมายถึง ชะมดพันธุ์ Paradoxurus ที่อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อรวมทั้งสองคำ ก็คือ Kopi Luwak [อ่านว่า โกปิ ลูวะ] หมายถึง กาแฟขี้ชะมดนั่นเอง
สาเหตุที่เรียกชื่อเช่นนี้ก็เพราะกาแฟชนิดนี้นี่แหละเป็นผลผลิตที่ออกมาพร้อมกับขี้ชะมด

กาแฟมันมาจากตัวชะมดได้ยังไง?
กาแฟชนิดนี้มาจากไร่บนเกาะสุมาตรา โดยเริ่มต้นจากชาวไร่กาแฟจะเลี้ยงชะมดพันธุ์พื้นเมืองนี้ไว้ในไร่กาแฟและปล่อยให้มันกินผลของกาแฟสุกที่อยู่ในไร่ เมื่อชะมดถ่ายมูลของมันออกมาก็จะมีเมล็ดกาแฟติดออกมาด้วย

ใครคิดเอาขี้ชะมดมากินเนี่ย?
กาแฟขี้ชะมดเนี่ย แต่เดิมเป็นกาแฟสายพันธุ์ โรบัสต้า ราคาถูก มีชาวอินโด ไปเดินป่า แล้วพบเห็น
ขี้ชะมด มีกาแฟที่ไม่ถูกย่อย ยังคงเป็นรูปเมล็ดอยู่ จึงเกิดความเสียดาย เอามาล้าง และลองคั่วชงทานดู ปรากฏว่าได้ รสชาติและกลิ่นที่หอมหวน แปลกใหม่ เข้มข้น แบบที่โรบัสต้าเดิมให้ไม่ได้ [กาแฟโรบัสต้า ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของ Body แต่อ่อนหรื่อกลิ่นและรสชาติ] ต่อมาจึงเกิดการเพาะเลี้ยงชะมด ในไร่กาแฟเป็นล่ำเป็นสันขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าโรบัสต้า

ทำไมมันราคาแพงที่สุดในโลก? คอกาแฟหลายคนเล่าว่ามีราคาแพงและหายากที่สุดก็เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่าการปลูกกาแฟทั่วไป ชะมดเป็นสัตว์ที่กินยาก เลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกดีแล้วเท่านั้น ขณะที่ผลกาแฟอยู่ในท้องของตัวชะมดนั้นเมล็ดจะผสมกับเอมไซม์และสารเคมีที่อยู่ในกระบวนการย่อยของมัน ทำให้กาแฟชนิดนี้มีกลิ่นและลักษณะเฉพาะตัว

ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้นจึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาสูง

ขั้นตอนหลังจากนั้นก็จะเหมือนการทำกาแฟชนิดอื่นๆ ด้วยการนำไปล้างเอามูลชะมดออกให้หมดจด และขั้นตอนสุดท้ายคือนำไปคั่วเพื่อพร้อมที่จะนำส่งให้บรรดาร้านกาแฟต่อไป และด้วยขั้นตอนการได้มาของกาแฟขี้ชะมดยากแสนยากอย่างนี้ทำให้ในปีหนึ่งมีกาแฟชนิดนี้ออกมาสู่ตลาดเฉลี่ยปีละ 500 ปอนด์เท่านั้น

สนนราคา ก็ ปอนด์ ละ 300$ เหรียญเท่านั้น อยากรู้เป็นเงินไทยเท่าไหร่ ก้ลองคูณดูละกัน

ถ้าใครอยากจะลองชิม ก็ต้องจ่ายถึง 500บาทต่อแก้ว คงไม่มีร้านกาแฟที่ไหนบ้าจี้เอามาชงขายนะ

ปิดท้ายด้วยข่าวขำ วงการกาแฟ

กาแฟขี้ชะมดโดนล้มแช้มป์ โดย "กาแฟลิง"

เมืองเกษตรกรรมอย่างไทยเรารู้จักใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์โดยนำไปเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้มานาน อีกทั้งรู้ว่าวัตถุดิบจากสัตว์บางชนิดสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของยารักษาโรคได้ ความมหัศจรรย์หนึ่งที่เกิดจากสัตว์แต่ไม่ได้ค้นพบในบ้านเรา ไปปรากฏที่อินโดนีเซีย คือขี้ชะมดนำไปทำกาแฟดื่มเรียกว่า กาแฟโกปิลูวัก (Kopi luwak) ก้าวขึ้นมาเป็นยอดกาแฟราคาแพงที่สุดในโลก แต่ล่าสุดกาแฟขี้ชะมดเสียแชมป์ด้านความอร่อยไปแล้วเมื่อนักชิมระดับโลกฟันธงว่ากาแฟขี้ชะมดรสชาติสู้ “กาแฟลิง” ไม่ได้

ทิฟฟานี โซเปอร์ ประชาสัมพันธ์ของ 49th Parallel บริษัทจำหน่ายกาแฟชื่อดังแห่งแคนาดา เผยกับเหยี่ยวข่าว Vancouver Sun ว่ายอดกาแฟน้องใหม่มาแรงดังกล่าวชื่อ India Devon Estate 795 Arabica ปรุงจากเมล็ดกาแฟที่ลิงวอกในอินเดียบ้วนออกมา ลิงวอก (Rhesus Monkey) ชื่อวิทยาศาสตร์ Macaca mulatta พบในภาคเหนือของไทย ในจีน และอัฟกานิสถานด้วย โซเปอร์เล่าว่าชาวไร่กาแฟในอินเดียนำเมล็ดกาแฟที่ลิงบ้วนทิ้งมาปรุงดื่มนานแล้ว แต่นำมาผสมกับเมล็ดกาแฟเก็บจากต้น ก่อนจะทดลองรสชาติกาแฟลิงล้วนๆเมื่อไม่นานที่ผ่านมา และพบว่ารสชาติโดนใจกว่า

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่ากาแฟลิงกลิ่นหอมยวนใจ รสชาติกลมกล่อมปิดท้ายด้วยรสหวานฉ่ำลิ้น เป็นผลมาจากเมล็ดกาแฟที่ลิงเลือกไปกินเปลือกนอกและบ้วนส่วนที่เหลือออกมาเป็นเมล็ดที่สมบูรณ์และสุกเต็มที่ เว็บไซต์ Canada.com ระบุว่า ประธานคณะกรรมการตัดสินการปรุงกาแฟชิงแชมป์โลกเทคะแนนให้ India Devon Estate 795 Arabica ถึง 98 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 ส่วนกาแฟขี้ชะมดได้ 74 คะแนน ร้าน 49th Parallel ขายกาแฟลิงปรุงแบบ Espresso ที่สาขาในแวนคูเวอร์ ถ้วยละ 2.36 ดอลลาร์สหรัฐ (75.50 บาท)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น