เห็ดหลินจือ

5.3.55
โดยกองเกษตรสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อ10 กันยายน 2552
เห็ดหลินจือ ชื่อสามัญ Ling Zhi Mushroom ชื่อวิทยาศาสตร์ Ganoderma Iucidum

ชื่ออื่น เห็ดหมื่นปี เห็ดหิ้ง เห็ดขอนไม้ เห็ดสวรรค์พันปี เห็ดศักดิ์สิทธิ์ เห็ดนำโชค

ถิ่นกำเนิด ประเทศจีน ฤดูกาล ฤดูฝน ลักษณะทางพันธุศาสตร์ หมวกเห็ดเป็นรูปไตหรือครึ่งวงกลม ดอกเห็ดกว้าง 3-9 เซนติเมตร ดอกอ่อนสีเหลือง ขอบขาว กลางดอกสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง เนื้อเหนียว ดอกแก่จะแข็งเป็นมัน สีน้ำตาลแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ หมวกเห็ดมีริ้วหรือหยักเป็นคลื่น ขอบหมวกหน้างุ้มลงเล็กน้อย ด้านล่างมีรูกลมเล็กๆเป็นท่อเชื่อมติดกัน ก้านดอกสีน้ำตาลดำสั้นหรือไม่มีก้านเลย อยู่เยื้องไปด้านใดด้านหนึ่งของดอก หรืออยู่ติดขอบหมวก ผิวก้านเป็นมันเงา ผิวเรียบ

เห็ดหลินจือมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีรสชาตและสรรพคุณแตกต่างกันไป แหล่งปลูก หินหลินจือตามธรรมชาติมักขึ้นอยู่กับขอนไม้ที่ตายแล้ว ในเขตป่าอบอุ่นและเขตร้อน การกิน ดอกเห็ดนำมาต้มหรือตุ๋น สรรพคุณทางยา ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดปริมาณน้ำตาลและโคเลสเตอรอล รักษาอาการภูมิแพ้ต่างๆ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ แก้หอบหืด ยับยั้งเซลเนื้องอกมะเร็ง แก้ปวดตามข้อ บำรุงร่างกาย บำรุงประสาท

เห็ดหลินจือ ลักษณะธรรมชาติของเห็ดหลินจือ เห็ดหลินจือจัดเป็นเห็ดที่เจริญเติบโตดีในธรรมชาติ โดยเจริญเติบโตตามโคนต้นไม้ในเขต อบอุ่นและเขตร้อน จะเจริญได้ดีบนตอไม้ที่ตายแล้ว เช่น

ต้นคูน 
ก้ามปู 
หางนกยูง 
ยางพารา 

เป็นต้น

ส่วนประกอบของเห็ดหลินจือ -หมวกดอก อาจเกิดเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3-4 ดอกที่มีโคนดอกติดกัน 

ดอกเห็ดเมื่อยังอ่อนอยู่ จะมีสีขาวหรือสีเหลือง กลางหมวกดอกจะมีสีน้ำตาล แต่ถ้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้วขอบหมวกจะงองุ้มลง สีของหมวกดอกจะเข้มมากขึ้น เนื้อเยื่อภายในดอกเห็ดจะมีเส้นใยสีน้ำตาล ผิวของหมวกดอกมีลักษณะเป็น เงาคล้ายทาด้วยแชลแลคมีสีน้ำตาลแดง -ครีบดอก ใต้หมวกดอกมีลักษณะเป็นรูเล็กสีขาวหรือสีเหลืองจำนวนมาก 

ภายในรูเป็นแหล่งกำเนิดของสปอร์ เมื่อเจริญเต็มที่จะมีการสร้างสปอร์และปล่อยออกมามากมาย บางส่วนจะปลิวตกลงพื้นแต่บางส่วนจะ ลอยขึ้นไปปกคลุมผิวของหมวกดอก สปอร์มีลักษณะเป็นผงสีน้ำตาล เมื่อนำมาชิมดูจะพบว่ามีรสขม -ก้านดอก เห็ดหลินจืออาจจะมีก้านดอกหรือไม่ก็ได้ โดยเฉพาะเห็ดหลินจือที่ขึ้นตามตอไม้อาจไม่พบก้านดอก ก้านดอกอาจจะอยู่กึ่งกลางหรือค่อนไปข้างใดข้างหนึ่งของหมวกดอกก็ได้ การเพาะเห็ดหลินจือในถุงพลาสติก สูตรอาหารสำหรับเพาะเห็ดหลินจือที่ใช้กันในประเทศไทยมีหลายสูตร เช่น 

สูตรที่ 1 ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม รำละเอียด 5 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม น้ำ พอประมาณ 

สูตรที่ 2 ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม รำละเอียด 3 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม น้ำ พอประมาณ 

สูตรที่ 3 ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 75 กิโลกรัม รำละเอียด 24 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม น้ำ พอประมาณ 

สูตรที่ 4 ขี้เลื่อยไม้เบญจพรรณ 100 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม แอมโมเนียซัลเฟต(21-0-0) 2 กิโลกรัม นำส่วนผสมข้างต้นคลุกกันแล้วปรับความชื้นให้สม่ำเสมอ หมักทิ้งไว้ 2 เดือนโดยกลับกองทุก ๆ 15 วัน เมื่อได้ที่แล้วนำมาผสมตามอัตราส่วนดังนี้ ขี้เลื่อยที่หมักดีแล้ว 100 กิโลกรัม รำละเอียด 3 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม 

วิธีการทำก้อนเชื้อเห็ดหลินจือ ให้ปฏิบัติดังนี้ -นำส่วนผสมต่าง ๆ มาคลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน -เติมน้ำลงไปผสมและทดสอบความชื้นโดยนำส่วนผสมมา กำดูถ้าไม่มีน้ำไหลออกตามง่ามมือและ เมื่อแบมือออกส่วนผสมยังจับกันเป็นก้อนก็ใช้ได้ -บรรจุส่วนผสมลงในถุงพลาสติกทนร้อนขนาด6.5x12.5 นิ้ว ถุงละ 8-9 ขีด แล้วอัดให้แน่น สวมคอขวดพลาสติก จุกด้วยสำลีและหุ้มด้วยกระดาษ -นำไปนึ่งกับหม้อนึ่งลูกทุ่ง นานประมาณ 2-3 ชั่วโมงนับจากน้ำเดือด -เมื่อถุงขี้เลื่อยเย็นจึงใส่เชื้อเห็ดที่เลี้ยงบนเมล็ดข้าวฟ่างลงไป -นำไปบ่มที่อุณหภูมิ 28-32 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 เดือน เส้นใยจะเดินเต็มถุง 

จากนั้นบ่มต่ออีก 7-10 วัน เพื่อให้เชื้อรัดตัวและพร้อมที่จะเจริญเป็นดอก -การเปิดดอกให้เปิดในโรงเรือนที่มีความชื้นประมาณ 75-85 เปอร์เซ็นต์โดยดึงจุกสำลีออก สรรพคุณของเห็ดหลินจือในการรักษาโรค เห็ดหลินจือเห็นเห็ดสมุนไพรซึ่งเชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพแข็งแรงแลมีอายุยืนยาว เห็ดชนิดนี้จะช่วยทำให้ระบบทั้ง 3 ของร่างกาย ทำงานได้อย่างปกติสมบูรณ์ขึ้นด้วย คือ 

1.ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ 

2.ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคหืด 

3.ระบบไหลเวียนของโลหิต ได้แก่ ความดัน โรคหัวใจ รอบเดือนของสตรี 

นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการของโรคอื่น ๆ ได้แก่ โรคมะเร็ง เบาหวาน ไตอักเสบ โรคเก๊าท์ ตับแข็ง ท้องผูก เป็นต้น การใช้เห็ดหลินจือ ในการรักษาจะมีผล ข้างเคียงอย่างเดียว คือ อาการคล้ายท้องเสียในช่วงต้น บางคนอาจไม่มีอาการแบบนี้เลย 

การรักษาและควบคุมโรคขึ้น อยู่กับอาการของโรคที่เป็น และผู้ป่วยจะต้องควบคุมอาหาร(อาหารพวกปรุงแต่งมาก ๆ งดผงชูรส อาหารกระป๋อง เหล้า บุหรี่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์โดย เฉพาะอาหารทะเล เพราะจะไปเร่งการเจริญเติบโตของเซลมะเร็ง) ปฏิบัติตัวให้มีสุขภาพ ที่ดีตามหลักความสมดุลธรรมชาติ แล้วผู้ป่วยก็จะมีโอกาสหายจากมะเร็งได้และสำหรับ ผู้ที่ปฏิบัติตัวได้ดีๆ ก็จะไม่เป็นโรคมะเร็งเลย การบริโภคเห็ดหลินจือในการรักษาโรค 

1.นำเห็ดหลินจือแห้งมาฝานจำนวน 5 กรัม ผสมกับน้ำ 1 ลิตร นำมาต้มแล้วเคี่ยวจนเหลือปริมาณน้ำ 0.5 ลิตร นำมารับประทานได้ 

2.นำเห็ดหลินจือแห้งจำนวน 5 กรัม ผสมน้ำ 1 ลิตร นำมาต้มหรือเคี่ยวจนเหลือน้ำประมาณ 0.5 ลิตร นำมารับประทานได้ 

3.ถ้าต้องการแบบเข้มข้นให้นำน้ำสกัดจากข้อ1 ข้อ2 มาผสมกันแล้วนำไปเคี่ยวจนเหลือน้ำประมาณ 0.5 ลิตรก็ได้ 

4.ใช้เห็ดหลินจือฝานตามข้อ1 ประมาณ 5-10 ชิ้น ผสมน้ำ 2 ลิตร ต้มจนเดือดอ่อน ๆ นาน 15 นาที กรองน้ำใช้ดื่ม ดื่มน้ำต้มเห็ดหลินจือทุกวัน สุขภาพจะแข็งแรง

1 ความคิดเห็น:

  1. I am grateful for this blog to distribute knowledge about this significant topic. Here I found different segments and now I am going to use these new instructions with new enthusiasm.เห็ด หลิน จื อ สรรพคุณ

    ตอบลบ