เว็บไซต์เมโทร ของอังกฤษ รายงานว่า
นายถัง เจิ้งผิง ชาวนาจีนวัย 55 ปี จากเมืองปักกิ่ง
โชว์ไอเดียสร้างสรรค์แนวอนุรักษ์โลกแบบง่าย ๆ ที่ไม่มีใครเหมือน เมื่อเขาได้ประดิษฐ์รถยนต์พลังลมสุดเจ๋งขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยใช้ต้นทุนการผลิตไม่ถึง 5 หมื่นบาท!
นายถัง เจิ้งผิง ได้ใช้เวลาในการออกแบบ รวมทั้งสร้างรถไฟฟ้าพลังลมคันนี้อยู่สามเดือน โดยตัวรถมีความสูงอยู่ที่ 1 เมตร และยาว 3 เมตร ใช้แบตเตอรี่ที่ติดอยู่ใต้กระโปรงรถด้านหลังเป็นตัวขับเคลื่อน และยังมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ได้จากพัดลมขนาดใหญ่จำนวนสองตัว ที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าและท้ายรถ คอยทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟให้รถวิ่งได้
โดยตัวใบพัดของพัดลมจะเป็นเสมือนแผงโซลาร์ ซึ่งนำเอาพลังงานลมที่ได้มาขณะรถกำลังออกวิ่ง มาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ชาร์จเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ และรถคันดังกล่าวต้องคอยชาร์จแบตทุก ๆ 2 - 3 วัน
ทั้งนี้ รถยังสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึงเกือบ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และยังสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วไปอีกด้วย
นายถัง เจิ้งผิง ได้ใช้เวลาในการออกแบบ รวมทั้งสร้างรถไฟฟ้าพลังลมคันนี้อยู่สามเดือน โดยตัวรถมีความสูงอยู่ที่ 1 เมตร และยาว 3 เมตร ใช้แบตเตอรี่ที่ติดอยู่ใต้กระโปรงรถด้านหลังเป็นตัวขับเคลื่อน และยังมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ได้จากพัดลมขนาดใหญ่จำนวนสองตัว ที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าและท้ายรถ คอยทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟให้รถวิ่งได้
โดยตัวใบพัดของพัดลมจะเป็นเสมือนแผงโซลาร์ ซึ่งนำเอาพลังงานลมที่ได้มาขณะรถกำลังออกวิ่ง มาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ชาร์จเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ และรถคันดังกล่าวต้องคอยชาร์จแบตทุก ๆ 2 - 3 วัน
ทั้งนี้ รถยังสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึงเกือบ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และยังสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วไปอีกด้วย
สำหรับรถยนต์พลังลมนี้ ใช้ต้นทุนในการผลิตอยู่ที่ 10,000 หยวน (หรือประมาณ 45,000 บาท) เท่านั้น ประหยัดกว่าการลงทุนซื้อรถพลังลมจากบริษัทผลิตรถกว่า 10 เท่า (รถพลังลมทั่วไปราคาไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท)
ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มากเลย เมื่อเทียบกับนวัตกรรมอันน่าทึ่งที่สร้างขึ้นมาได้สำเร็จ และมันก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน ได้ลองประดิษฐ์รถพลังลมใช้เองดูบ้างก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น