"ยิ่งเก่าเท่าไหร่ ยิ่งดี" เพราะนั่นคือโจทย์ท้าทายที่เขาจะได้ลงมือ ปรับ แต่ง แปลงโฉมให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูหรูหรา
เวลานั่งรถผ่านตึกเก่าๆ โทรมๆ หลายคนอาจเบือนหน้าหนี แต่ในสายตาของ สชา ธนศรีวนิชชัย วิศวกรหนุ่มแล้ว
"ยิ่งเก่าเท่าไหร่ ยิ่งดี" เพราะนั่นคือโจทย์ท้าทายที่เขาจะได้ลงมือ ปรับ แต่ง แปลงโฉมให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูหรูหราทั้งภายนอกและภายใน ...เน้นว่าต้องเป็นตึกเก่าในทำเลงามเท่านั้น
สชาเฮ้าส์ เดอะบูติกโซฟิเทล
อาคารทรงยุโรปที่เกิดจากการแปลงโฉมตึกแถว 5 ชั้น 4 ห้อง บริเวณปากซอยเสนานิคม (ซอย 6) ดูหรูหราเตะตายิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อมองลอดหน้าต่างกระจกเข้าไปพบกับเครื่องเรือนหรูหรา แชนเดอเลียโคมระย้าล้อเล่นกับแสงไฟระยิบ ถ้าไม่เห็นป้ายประกาศให้ทราบว่าที่นี่คือ สชาเฮ้าส์ เดอะบูติกโซฟิเทล ห้องพักให้เช่ารายวัน/รายเดือน คงคิดว่าเป็นโชว์รูมร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เป็นแน่
แม้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง เพราะว่าบูติคโฮเต็ลแห่งนี้ เป็นโรงแรมที่มีโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศบริเวณชั้นล่าง และชั้นบน ขณะเดียวกันเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประดับ ตกแต่ง ไม่เว้นแม้ผ้าปูที่นอน หรือ ปลอกหมอน ถ้าชอบก็ติดต่อซื้อได้
หรูหราอย่างนี้ เห็นราคาห้องพักแล้วอาจตกใจ ห้องพักรายวันเริ่มต้นที่ราคา 650 - 1,000 -1,500 บาท ห้องพักรายเดือน 12,000 และ 17,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง (โปรโมชั่นถึงเดือนมีนาคม)
การเดินทางของตึกเก่าสู่บูติคโฮเต็ล
สชาเฮ้าส์ เดอะบูติกโซฟิเทล เปิดให้บริการมาเมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมานี้เอง หากตึกงามหลังนี้ผ่านมากเพิ่มมูลค่าและผ่าตัดแปลงโฉมรวมถึงประโยชน์การใช้งานมาตั้งแต่ปี 2540 ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนั่นเลยทีเดียว
สชา ธนศรีวนิชชัย อดีตอาจารย์คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยรังสิต เจ้าของธุรกิจบอกกับเราว่า "เป็นความฝันของผู้ชายทุกคนว่าอยากประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม อาจเป็นเพราะว่าเรามีความทะเยอทะยาน ช่วงเป็นอาจารย์ก็เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง พอได้จังหวะเราก็มาสร้างธุรกิจตัวเอง เริ่มต้นด้วยการรับเหมาก่อสร้าง เรามองว่าถ้าเราทำบ้านลูกค้า สร้างบ้าน ปรับปรุงบ้าน ปีสองปี ทำแล้วไม่เห็นกำไร เจ้าของบ้านอยากได้ของดีราคาถูก ไม่เวิร์คแน่ คิดว่าซื้อบ้านเก่ามาปรับปรุงดีกว่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าทำให้เช่า ขายได้ก็ขาย ปรากฏว่าหลังแรกขายได้กำไรสูง"
ยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ อสังหาริมทรัพย์หลายหลังถูกทิ้งร้าง บ้าน ตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ล้วนไม่มีใครอยากซื้อ ส่วนมากก็ขายไม่ออก แต่ผู้ชายคนนี้ซื้อทีเดียว 3 หลัง
"เราเป็นคนชอบจินตนาการเวลาขับรถผ่านบ้านเก่าๆ โทรมๆ ถ้าทำให้สวยก็คงจะขายได้ราคาดีเพราะว่าทำเลสวย เราเรียนมาทางวิศวโยธาด้วย พอทำงานมีรายได้เราก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ก็มีบ้านที่พ่อซื้อให้อยู่แล้ว เลยได้ไอเดียซื้อบ้านเก่ามาปรับปรุงแล้วขายดีกว่า"
ถามว่าเก่าแค่ไหน
"ยิ่งเก่ายิ่งดีครับ เพราะว่าเราดูโครงสร้างเป็นไงครับ เห็นรอยร้าวเราจะรู้ว่าร้าวเพราะอะไร มีหลังนึงผมไปดู เป็นทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ผมไม่เอาเพราะว่าปรับปรุงแล้วต้องออกมาดูดี หลังนั้นขายกัน 4-5 ล้าน ตรงโชคชัยสี่ ตอนนั้น 2 ล้านเค้ายังขายไม่ได้เลย ผมมองกลับกันเพราะผมชอบศึกษาประวัติศาสตร์ ทำให้รู้ว่าเศรษฐกิจมันจะมีขึ้นลง ช่วงนั้นมีแต่คนขาย ผมซื้อไป 3 หลัง ทาวน์โฮมซื้อมา 2 ล้าน ขายไปแล้ว 5 ล้าน"
ช่วงเดียวกันนั้น สชาซื้อกิจการสนุกเกอร์โทรมๆ และตึกแถวสองคูหาซึ่งทำเป็นโรงแรมในปัจจุบัน
แต่งใหม่ให้เช่า
ความรู้ที่เรียนมานำมาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด หลังจากแปลงตึกเก่าปรับปรุงภายในภายนอกให้ดูดีแล้ว แรกๆ ก็ให้เช่า หลายปีต่อมาก็ตัดสินใจขายเมื่อได้ราคาดี
"ส่วนมากเวลาเลือกซื้อดูทำเลแถวบ้าน ละแวกเสนานิคม เรารู้ว่าซอยตรงนี้เป็นไง คนอยู่ระดับไหน ที่นี่ใกล้ตลาด ใกล้รถเมล์ ตอนแรกคิดว่าเป็นตึกหลังนี้ปรับปรุงเป็นที่พักอาศัย เราอยู่ด้วยห้องนึง จินตนาการว่าเราทำอพาร์ตเมนต์ให้เช่าเดือนละ 2-4 พัน มีคนเช่าเต็ม พอคำนวณจำนวนห้อง เราได้เดือนเป็นแสนอยู่เองด้วยก็ดีนะ มีแม่บ้าน มียามใช้ฟรีๆ รีโนเวทไปก็ให้เช่าไป ทำไปทีละชั้น "
อพาร์ตเมนต์ กิจการดีมีผู้เช่าเต็มดังคาด ก็มาถึงจุดเปลี่ยนที่ผู้เช่ารายใหญ่ยกเลิกสัญญาด้วยวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ประกอบกับมีรายได้จากการขายบ้านเก่าที่ปรับปรุงใหม่ก้อนโต
"ได้กำไรเยอะ อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจดี เลยซื้อตึกติดกันอีก 2 คูหา แล้วทำเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่ดีที่สุดและหรูที่สุดในความคิดผมนะ ทำไมต้องหรู เพราะตัวผมเองด้วย เป็นความชอบ ชอบอะไรหรูหรา เวลาไปพักตามโรงแรมผมต้องนอน 5 ดาวนะ แฟนผมบอกว่าพักโรงแรมธรรมดาก็ได้ แต่ผมไม่ชอบ
คอนเซปต์คือ ทำยังไงให้ดีที่สุด เพราะเราอยู่ด้วย ถ้าทำแค่พออยู่ได้ เวลาเราเดินในตึก ฟิลลิ่งมันไม่ได้ รายได้ไว้ทีหลัง
ต้องเหมือนบ้านน่าอยู่ ดีพอที่ผมจะนอนได้ทุกห้อง ผมมองว่าถ้าผมซื้อของในเมืองไทยไม่ได้แน่ ราคาแพงเพราะผมทำรับเหมาก่อสร้างผมรู้ราคา ก็เลยเดินทางไปหาซื้อของต่างประเทศซื้อของนำเข้ามาเป็นคอนเทนเนอร์ เทียบกันผมน้ำเข้าเฟอร์นิเจอร์ 15 ล้าน ถ้าซื้อเมืองไทย 60 ล้าน เพราะเราซื้อจากโรงงานโดยตรง หมดค่าเซอร์เวย์ไปสองล้าน จากหลายประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย จีน"
บูติคโฮเต็ลหรูที่เป็นโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ด้วย
หลังจากไปสำรวจแหล่งผลิตเฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายใน จนในที่สุดตัดสินใจเป็นผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก หินอ่อน (Marble) หินอ่อนเทียม (Compound Marble) โมเสกหินอ่อน (Marble Mosaic) ผ้าม่าน เตาผิงหินอ่อน (Marble Fireplace) บัว Polyurethane (PU) โคมไฟ LED และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกหลายรายการ
จากเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่คิดไว้แต่แรก เมื่อตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราแล้วจึงพัฒนามาเป็นบูติคโฮเต็ล ซึ่งเป็นที่พักในบรรยากาศที่เจ้าของชื่นชอบแล้ว ในขณะเดียวกันเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่งทุกอย่างก็จัดวางเปรียบเสมือนโชว์รูมชั้นดี ชอบก็ซื้อหากันได้ ตั้งแต่ปลอกหมอนไปจนถึง บัวที่ใช้ตกแต่งผนังกันเลย
จากตึกเก่าๆโทรมๆ เมื่อได้รับการแปลงโฉมด้วยเครื่องตกแต่งอันหรูหรา วันนี้ สชาเฮ้าส์ เดอะบูติกโซฟิเทล จึงเป็นทั้งโรงแรมและร้านเฟอร์นิเจอร์คุณภาพที่พร้อมให้การต้อนรับผู้ที่มีรสนิยมเดียวกัน
//////////////////
หมายเหตุ : สชาเฮ้าส์ เดอะบูติกโซฟิเทล 100/2-5 พหลโยธิน 32, เสนานิคม 1 ซอย 6 ถนนพหลโยธิน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. โทร. 082-333-3010, 02-941-5256-7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น