นวัตกรรมน่าสนใจ

กระเป๋าตังค์สไตล์มินิมอล

12.2.60

ด้วยความแน่วแน่ในสิ่งที่รัก " รสลิน จรรยาศักดิ์ " ผู้หญิงเก่งเจ้าของแบรนด์ MO. กระเป๋าตังค์สไตล์มินิมอลที่สามารถสร้างรายได้เกือบ 6 หลักต่อเดือน #PerspectiveTV

นวัตกรรมเครื่องผลิตน้ำ

30.7.58

โดยวอยซ์ทีวี by Porntip Morngyai
6 มิถุนายน 2555 เวลา 18:09 น.

http://news.voicetv.co.th/thailand/41089.html

ระบบผลิตน้ำผลิตน้ำดื่มอัจฉริยะของทรูดส์
บริษัทผลิตเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ราคา 3.5 ล้านบาท

https://www.youtube.com/watch?v=7-V6y-gj-W0&feature=youtu.be

การมองและการลงมือทำ ทำให้มนุษย์จดจำได้มากที่สุด

3.6.58

เมื่อ 13 เม.ย.2558

ข้อมูลจากเว็บไซต์ เดลีอินโฟกราฟฟิคดอตคอม รายงานผลการวิจัย ว่า

สิ่งที่มนุษย์จดจำได้กว่า 80% มาจากการมองเห็นและลงมือทำ
รองลงมาคือการอ่านคิดเป็น 20%
รองลงมาอีกคือ การฟัง คิดเป็น 10%
และในแต่ละวัน มนุษย์จะรับข้อมูลต่าง ๆ เข้าสู่สมอง จำนวนประมาณ 34 กิกกะไบต์

จากรายการโลกยามเช้า ช่อง 3

รถตุ๊ก ๆ ขายสินค้า

24.5.58

เขียนเมื่อ 24 พ.ค.2558

ไอเดียสำหรับคนที่สนใจหาอาชีพขายสินค้าเคลื่อนที่

สามารถใช้รถตุ๊ก ๆ มาดัดแปลงทำเป็นร้านขายสินค้าเคลื่อนที่ได้

เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากคนไทยและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แน่นอน

TaskRabbit จ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ อะไรก็ได้

3.5.58

โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 3 กันยายน 2554

ไม่มีเวลาออกไปซื้อของเข้าบ้าน? ขี้เกียจประกอบเฟอร์นิเจอร์ืเอง? บริการทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้จากเว็บ Taskrabbit.com

ประจักษ์ 9 รส ขนมเปี๊ยะ...สุดครีเอต ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

19.4.58

โดยมติชน เมื่อ 18 ก.พ.2558

“ขนมเปี๊ยะ ส่วนใหญ่มีแต่แบบแป้งร่วนกรอบ ไส้ก็แห้งๆ พอทานทีไรฝืดคอต้องรีบกินน้ำตาม เลยคิดว่าทำไมเราไม่ทำขนมเปี๊ยะแป้งแบบอื่นดูบ้าง...”

ขนมเปี๊ยะ ขนมมงคล มีมาแต่โบร่ำโบราณตามความเชื่อของชาวจีน สื่อถึงความปรารถนาดีระหว่างผู้รับกับผู้ให้ ที่ถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่น จนปัจจุบัน ขนมชนิดนี้ ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หากรูปแบบการทำอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย

อย่าง ขนมเปี๊ยะสดอบควันเทียน ตรา “ประจักษ์ 9 รส” ที่ดัดแปลงสูตรทั้งแป้งทั้งไส้ ให้ถูกปาก “คนทำ” เป็นจุดเริ่ม ก่อนส่งต่อไปให้คนใกล้ชิด จนหลายคนติดอกติดใจนักหนา

แม้ทุกวันนี้ ไม่มีหน้าร้านเป็นเรื่องเป็นราว แต่ขนมเปี๊ยะเจ้านี้ มีออร์เดอร์จากลูกค้าตลอดทั้งปี ช่วงพีกสุดๆ ทีมงานเกือบ 10 ชีวิต เคยปั้นกันมือเป็นระวิง ถึงวันละ 15,000 ลูก มาแล้ว และหากลูกค้าท่านใด คิดจะเดินเข้าไปซื้อหามาลองชิมสักกล่องสองกล่อง ต้องขอบอกเสียใจด้วย เพราะขนมเปี๊ยะประจักษ์ 9 รส ต้องสั่งล่วงหน้าเท่านั้น...ถึงจะได้รับประทาน!

คุณประจักษ์ เจียมจรรยงค์ เจ้าของผลงานวัย 48 ปี ละมือจากงานประจำวัน มาพูดคุยกันด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม เริ่มต้นให้ฟัง จบปริญญาตรี คณะบัญชี มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ปริญญาโท ด้านธุรกิจระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยสยาม

ก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำอยู่สำนักงานตรวจสอบบัญชี ประจำบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นเคยใช้เวลาว่างไปเรียนการทำเบเกอรี่นาน 2 เดือน เพราะในใจลึกๆ แล้ว อยากเป็นเชฟมากกว่านักบัญชี

ทำงานประจำอยู่ 10 กว่าปี รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะไม่ใช่งานที่ชอบ กระทั่งปี 2548 จึงลาออกมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง ขนมปัง ขนมเค้ก อยู่แถวย่านประชานิเวศน์ 1 และด้วยความที่เป็นคนชอบทำและชอบทานขนม จึงลองทำขนมเปี๊ยะในแบบที่ “อยากทาน” ออกมาแจกจ่ายให้ญาติและเพื่อนฝูงช่วยชิมและติชม

“ขนมเปี๊ยะ ส่นใหญ่มีแต่แบบแป้งร่วนกรอบ ไส้ก็แห้งๆ พอทานทีไรฝืดคอต้องรีบกินน้ำตาม เลยคิดว่าทำไมเราไม่ทำขนมเปี๊ยะแป้งแบบอื่นดูบ้าง อีกอย่างผมชอบทานขนมลูกชุบ เลยนำคุณสมบัติ 2 ตัวนี้มารวมกัน และทำออกมาตามที่คิด จนได้ขนมเปี๊ยะอบควันเทียน เป็นแป้งเปลือกบางๆ และมีความนิ่มเหมือนขนมลูกชุบ” คุณประจักษ์ บอกจุดเริ่ม

สำหรับขั้นตอนกว่าจะได้ออกมาเป็นขนมเปี๊ยะแบบไม่เหมือนใครนั้น เจ้าของผลงานท่านนี้ บอก ทดลองทำแค่ 2 ครั้ง ก็ออกมาอย่างตั้งใจ ซึ่งไม่ได้ใส่ส่วนผสมอะไรเป็นพิเศษ ตัวแป้ง ใช้แค่ แป้งสาลี น้ำ น้ำมัน และ ไข่ ตามปกติ แต่วิธีการนวดนั้น ขออุบไว้เป็น “สูตรลับ” เฉพาะ

ส่วนไส้ขนมเปี๊ยะรุ่นบุกเบิก เป็นไส้ถั่วไข่เค็มเหมือนทั่วไป ทำได้ระยะหนึ่งจึงขยายความคิดจนออกมาเป็นไส้ใหม่ๆ เริ่มจากไส้เค็ม ที่รสชาติเหมือนไส้ขนมเทียน ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมมาก จากนั้นจึงทำ ไส้งาดำ ถั่วขาว ถั่วแดง เผือก ฝอยทอง ทุเรียน และขนมหม้อแกง ออกมาตามลำดับ

โดยย้อนไปเมื่อราว 8 ปีที่แล้ว คุณประจักษ์เริ่มจากการปั้นขายคนเดียว วันละไม่เกิน 60 ลูก ครั้นถูกส่งต่อกันไปแบบปากต่อปาก ออร์เดอร์จึงทยอยเพิ่มขึ้น

ล่าสุด กิจการนี้ทุ่มงบฯ ลงทุนเป็นเงินหลักแสนต้นๆ มีอุปกรณ์ทุ่นแรงในระดับอุตสาหกรรมในครัวเรือน พร้อมทีมงานอีก 7-8 คน และสามารถขยายกำลังได้อีกเป็นเท่าตัว เนื่องจากมีลูกค้าสั่งซื้อตลอดทั้งปี

โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ปีใหม่ ไหว้พระจันทร์ สงกรานต์ นั้น มี “งานเข้า” แบบต้องทำกันทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
แต่ด้วยความเป็นขนมสด การเก็บรักษาขนมเปี๊ยะนี้ จึงเก็บไว้ได้ไม่เกิน 3 วันนอกตู้เย็น ไม่อย่างนั้นจะบูดและเป็นรา แต่หากแช่ไว้ในตู้เย็นเก็บได้ถึง 2 สัปดาห์

ทางเจ้าของสินค้า จึงกำลังคิดค้นการยืดอายุให้สามารถเก็บได้ยาวนานขึ้น พร้อมปรับรูปแบบแพ็กเกจจิ้งใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการหิ้วไปเป็นของฝากหรือรับไปจำหน่ายต่อยังต่างประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมามีลูกค้ากลุ่มนี้จำนวนไม่น้อย

อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่างน้อย2-3 ตัว เพื่อเสริมทัพให้กิจการมีความแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นการผสมผสานของรสชาติขนมไทยและขนมฝรั่ง เพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มอื่นเป็นทางเลือกสำหรับคนอาจไม่ชอบทานขนมเปี๊ยะ

“ธุรกิจนี้ถือว่ากำไรดีใช้ได้ ไม่เสียใจที่ทิ้งเงินเดือนหลายหมื่นออกมา เพราะ 8 ปีที่รับบทพ่อค้า มีความสุขมาก ที่ผ่านมา เคยมีหลายคนมาขอร่วมหุ้นซื้อแฟรนไชส์ แต่ตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น เพราะทำด้วยทุนตัวเองสบายใจกว่า” คุณประจักษ์ ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น

ข้อคิดการเปิดร้านกาแฟ

19.4.58

เมื่อ 19 เม.ย.2558 จาก http://www.thaifranchisecenter.com/document/show.php?docuID=1052

การเปิดร้านกาแฟ มี 3 แบบ

1. สแตนอโลน
2. คีออส
3. รถเข็น หรือรถยนต์

แบบสแตนอโลน เสี่ยงสุด เพราะ ค่าใช้จ่ายสูงที่สุด อาจต้องจ่าย
- ค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน
- ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้าน
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าแอร์ ค่าบำรุงรักษา

ปัญหา คือ
- คนไม่กล้าเข้าร้าน เพราะเป็นร้านกระจกปิด ติดแอร์ คนกลัวแพง (แก้ไขด้วยการติดราคาหน้าร้านให้ชัด ๆ )
- ต้นทุนสูงกว่าร้านแบบอื่น
- ลูกค้านั่งแช่

โอกาส คือ
- ถ้าทำเลดี ๆ มีมุมมองรอบร้าน ลูกค้าจะอยากเข้าร้านมากกว่า
แต่หากเป็นร้านห้องแถว มุมมองจะจำกัด ซึ่งลูกค้าจะไม่ชอบนั่ง
- อยู่กับธุรกิจที่มีคนรอ เช่น ร้านล้างรถ, ร้านหนังสือ, กวดวิชา ลูกค้าย่อมเข้าร้าน
- สร้างจุดเด่น เช่น ใช้กาแฟหลากสายพันธุ์ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายน่านั่ง ออกแบบสวยงาม
- เพิ่มยอดขายได้ เพราะสามารถขายสินค้าตัวอื่นได้ เช่น เบเกอรี่ อาหารต่าง ๆ

แบบคีออส ข้อดี คือ
- ต้นทุนต่ำ
- ขายดีหากอยู่ในทำเลคนผ่านเยอะ และ
- ไม่มีค่าใช่จ่ายอื่น ๆ มากมาย

แบบรถเข็น หรือบนรถยนต์ ข้อดี คือ
- ไม่เสียค่าเช่า
- เคลื่อนย้ายไปได้ทุกที่ที่มีลูกค้า หากขายดีมาก ๆ ตั้งร้านขายได้ด้วย
- หากเจ๊งขายอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ขาดทุนไม่มาก รถยนต์ก็เอาไว้ใช้หรือขายต่อได้ไม่ขาดทุนมาก

สรุป หากจะขายกาแฟแบบสแตนอโลน เจ้าของต้องทำการบ้านหนักกว่า อีก 2 แบบมาก ๆ และใช้ทุนสูงกว่ามาก ๆ

Tweak ที่ดี สำหรับผู้ใช้ iPhone หรือ iPad ที่เจลเบรคแล้ว

18.4.58

โดย http://pantip.com/topic/32025550 เมื่อ 9 พ.ค.2557

Tweak สำหรับผู้ที่เจลเบรคไอโฟน หรือไอแพด แล้ว

โดยสามารถรู้ ตัวคนที่ได้มือถือไป และรู้ตำแหน่งของมือถือที่หายไป

Tweak ตัวนี้ชื่อว่า icaughtu

โดยสามารถหาได้จาก source ทั่วไป

วิธีการทำงานจะถ่ายภาพของคนที่ลองป้อน PASS CODE เมื่อป้อนรหัสผิด มือถือจะถ่ายภาพคนคนนั้นไว้ แล้วส่งภาพถ่ายและตำแหน่งมาที่อีเมลที่ตั้งไว้

นับว่าเป็นประโยชน์ต่อคนที่ทำมือถือหาย หรือถูกประทุษร้ายไปเป็นอย่างมาก

อาสาสมัครชาวอเมริกัน ประดิษฐ์รองเท้าแบบปรับได้ยืดได้

17.4.58

โดยช่อง 3 เมื่อ 17 เม.ย.2558

อาสาสมัครชาวอเมริกันประดิษฐ์รองเท้าแบบปรับได้ยืดได้ ช่วยเด็กในประเทศยากจนนับล้านคนที่ไม่มีรองเท้าใส่

พ่อแม่ทุกคนมักประสบปัญหาในการเลือกซื้อรองเท้าให้ลูกๆ ที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหานี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับพ่อแม่ในประเทศยากจน แต่ต่างกันตรงที่ลูกๆ ของพวกเขาไม่มีรองเท้าใส่

เคนตัน ลี จากเมือง Nampa รัฐไอดาโฮ จึงปิ๊งไอเดียขึ้นพัฒนารองเท้าที่สามารถปรับขนาดและยืดได้ เพื่อให้เหมาะกับขนาดเท้าของเด็กแต่ละคน โดยไม่ต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่

ไอเดียของลี เกิดขึ้นในขณะที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านพักผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า เมื่อปี 2007 หลังจากเห็นเด็กหลายร้อยคนวิ่งไปวิ่งมาด้วยเท้าเปล่า และ บางคนก็วิ่งโดยมีรองเท้าใส่หลายขนาดด้วยกัน จึงคิดหาทางประดิษฐ์รองเท้า ที่สามารถปรับและขยายได้หลายขนาด เพื่อช่วยให้เด็กๆ ที่ยากจนมีรองเท้าใส่ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่เท้า และ อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากพยาธิชอนไชเข้าไปในฝ่าเท้า โดยรองเท้าดังกล่าวทำมาจากยางพารา และ สามารถปรับได้ 5 ขนาด ตามขนาดของเท้าเด็กตั้งแต่อายุ 5 ขวบไปจนถึง 14 ขวบ

ลี บอกว่าจำวันที่เดินทางไปเยี่ยมเด็กๆที่กรุงไนโรบีได้ ในขณะนั้นมีเด็กหญิงสาวน้อยคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวนั่งอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับรองเท้าขนาดเล็กที่ไม่พอเหมาะกับขนาดเท้าของเธอ ขณะเดียวกันเมื่อมองไปรอบ ๆ กลับเห็นเด็กคนอื่น ๆ มีรองเท้าใส่อย่างสบาย จึงเกิดคำถามขึ้นมาในใจทันที จนกลายเป็นไอเดียและเกิดขึ้นจริงในที่สุด

ลีทำงานให้กับองค์กร Because International ซึ่งเป็นหน่วยงานการกุศลที่ทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในประเทศยากจน โดยหน่วยงานดำเนินโครงการที่เรียกว่า A Shoe Thats Grows with the Foot หรือ รองเท้าที่โตไปตามเท้า

Because International จัดส่งรองเท้าแบบดังกล่าว ไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันหน่วยงานนี้กำลังระดมทุนเพื่อจัดส่งรองเท้าอีก 5,000 คู่ไปให้เด็กๆ ทั่วโลก

จีน-ธุรกิจเพื่อนเสมือนจริงทางอินเทอร์เน็ต

17.4.58

โดยช่อง 3 เมื่อ 17 เม.ย.2558

การหาเพื่อนมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนออนไลน์ วันนี้ไปดูบริการพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับโฮสต์ หรือว่าผู้หญิงที่เป็นเพื่อนในโลกออนไลน์ได้ค่อนข้างดีทีเดียว

ซเว ยเว่ ยเว่ โฮสต์วัย 21 ปี เป็นหนึ่งใน 1 หมื่นโฮสต์

ในเว็บไซต์ bobo.com ที่ออกอากาศสดสำหรับผู้ที่ต้องการคุยกับคนอื่น โดยเธอใช้เวลาคุยกับแฟนๆ ในเว็บประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน

โฮสต์ในเว็บนี้ส่วนใหญ่มีความสามารถได้การร้องเพลง ซึ่งลูกค้ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ชายอายุระหว่าง 20-35 ปี โฮสต์สามารถทำท่าน่ารักๆ ได้ แต่ไม่อนุญาตให้แสดงความยั่วยวนทางเพศที่ชัดเจน และเพื่อเป็นการตอบแทนการพูดคุยจากโฮสต์ ผู้ใช้งานที่คุยด้วยจะซื้อของขวัญเสมือนจริงให้ ซึ่งอาจมีมูลค่ามากถึงหลายพันหยวน โดยทางเว็บไซต์จะได้เงิน 50-70 เปอร์เซ็นต์ จากราคาของขวัญเสมือนจริง ส่วนที่เหลือก็จะเป็นของโฮสต์ อย่างเช่น ซเว นั้นมีรายได้ประมาณ 5,000-50,000 บาทต่อเดือน ด้านผู้ใช้บางคนบอกว่า ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เขาจ่ายเงินให้เว็บไซต์นี้ไปกว่า 30,000 บาทแล้ว

แม้จะเป็นงานที่รายได้ดี แต่ ซเว บอกว่า เพื่อนของเธอไม่รู้ว่าเธอทำงานนี้อยู่ เนื่องจากเว็บไซต์เหล่านี้มักถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ แต่จริงๆ แล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ลักษณะนี้มีการควบคุมกิจกรรมวาบหวิวมากขึ้น ทำให้โฮสต์หลายคนเลิกกิจกรรมแบบนั้นไปแล้ว

ด้าน จัว หมิง ตัวแทนจากเว็บไซต์ bobo.com กล่าวว่า ขณะนี้ทางเว็บไซต์เข้มงวดกิจกรรมต่างๆ ไม่ให้แสดงออกเกี่ยวกับเพศมากจนเกินไป โดยมีแม้กระทั่งข้อกำหนดว่า ห้ามใส่กระโปรงสั้นเกินกี่เซนติเมตร

การเลี้ยงไก่ไข่ให้ได้กำไร

16.4.58

รายการเศรษฐีเกษตร เมื่อ 8 มี.ค.2558

แนะนำให้เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ โดยไม่ต้องเลี้ยงถึง 1,000 ตัว ก็คุ้มทุน

โดยสามารถเลี้ยงเพียง 200 ตัว ด้วยอาหารที่ทำเอง ราคาถูกกว่าอาหารสำเร็จรูป 3 เท่า

ใช้วิธีการหมักอาหารให้เกิดกรดอะมิโน แทนการใส่ปลาป่นหรือโปรตีนอย่างอื่นที่มีราคาแพงได้

https://www.youtube.com/watch?v=rqDQY5unEhc

เจ้าของบ่อเลี้ยงปลาไอเดียเจ๋ง เปิดบ่อขายบัตรให้ชาวบ้านจับปลา สุดคึกคัก

28.3.58

โดยข่าวสด เมื่อ 28 มี.ค.2558

เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 28 มี.ค.58 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

นายสุรสิทธิ์ ฤกษ์ตุลา อายุ 44 ปี เจ้าของบ่อเลี้ยงปลา

ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังองค์การบริหารส่วนตำบลนาแว ม.7 ต.นาแว อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดบ่อขายบัตรให้ชาวบ้านมายกยอ หรือทอดแห เพื่อระบายปลาในบ่อในช่วงที่น้ำกำลังลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด เพื่อให้ชาบ้านในบริเวณตำบลนาแวและตำบลใกล้เคียงได้สนุกสนานพักผ่อนในวันหยุด โดยขายบัตรในราคาใบละ 300 บาท ซึ่งปรากฏว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ขายบัตรจนหมดจำนวน 350 ใบ แต่ไม่พอกับความต้องการของชาวบ้าน

โดยนายสุรสิทธิ์ ฤกษ์ตุลา อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อเลี้ยงปลาดังกล่าวแจ้งว่า ตนเลี้ยงปลาไว้ในบ่อดังกล่าวซึ่งมีความยาวประมาณ 500 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตรเศษ มีปลานานาชนิดนำมาเลี้ยงไว้นานกลายเดือนแล้ว และช่วงนี้อากาศร้อนมาก น้ำในบ่อลดลงทุกวันเกรงว่าบ่อจะแห้ง อาจจะทำให้ปลาในบ่อตายเปล่าๆ ถ้าจับปลาไปจำหน่ายคิดว่าลำบากเพราะบ่อทั้งกว้างและยาว จึงมีแนวคิดว่าเปิดขายบัตรให้เพื่อนบ้านได้สนุกกัน เพื่อได้พักผ่อนคลายร้อนกัน โดยตั้งราคาค่าบัตรใบละ 300 บาท จำนวน 350 ใบ เพียงไม่กี่วันเพื่อนบ้านซื้อบัตรกันจนหมด

สำหรับกติกาการจับปลาให้ผู้ซื้อบัตรยืนระยะห่างกันประมาณ 2 เมตรครึ่ง ตลอดแนวยาวรอบบ่อทั้งสองฝั่ง ใช้เครื่องมืออะไรก็ได้มาจับปลา ทั้งทอดแห ยกยอ หรืออื่นๆ ได้หมด ส่วนปลาได้ปลาเท่าไหร่เอาไปเลย และในวันนี้เป็นวันที่กำหนดให้ชาวบ้านมาจับปลาเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.ปรากฏว่ามีชาวบ้านมากันเป็นจำนวนมาก ทั้งมาทอดแห ยกยอ รวมทั้งคนที่มาเชียร์ริมบ่อเต็มไปหมด สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะได้ปลาไปแล้วยังเป็นการสร้างความรักสามัคคีของคนในหมู่บ้าน และได้พักผ่อนในวันหยุดอีกด้วย นายสุรสิทธิ์ฯ กล่าว

จีน สร้างคฤหาสน์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ สำเร็จ

16.3.58

โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 21 ม.ค.2558

ไม่มีอะไรที่จีนทำไม่ได้เมื่อบริษัทสร้างบ้านในประเทศจีน ทดลองสร้างคฤหาสน์ 3 ชั้น และอาร์ตเมนต์ 5 ชั้น ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

บริษัท WinSun Decoration Design Engineering ในประเทศจีน ได้สร้างคฤหาสน์ 3 ชั้น และอพาร์ทเมนท์สูงกว่า 5 ชั้น สร้างจากเครื่องพิมพ์สามมิติที่มีความสูง 20 ฟุต จัดแสดงในนิคมอุตสาหกรรมซู่โจว มณฑลเจียงซู ของจีน

การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างบ้านทั้งหลัง ก่อสร้างจากวัสดุใช้แล้ว หรือ ขยะ จากเศษคอนกรีต , ฉนวนใยแก้ว , เศษข้าว หรือเศษวัตถุดิบจากการเกษตร โดยเรียกวัสดุทั้งหมดว่า "Ink"หรือหมึกพิมพ์สามมิติ คฤหาสน์หลังนี้ มี 3 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 1,100 ตารางเมตร ใช้เวลาในการสร้าง 1 วันต่อชั้นปัจจุบันมีผู้สนใจสั่งจองคฤหาสน์นี้ 10 หลัง ราคาขายหลังละ 161,000 ดอลลาร์ หรือ 5 ล้าน 1 แสน 5 หมื่น 2 พันบาท

ส่วนพาร์ตเมนต์ รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกับอพาร์ทเมนท์ทั่วไป ฟังก์ชั่นการใช้งานและวัสดุก่อสร้าง ก็เป็นแบบเดียวกับที่สร้างคฤหัสน์

นาย หม่า อี้ เหอ (Ma YiHe)ประธาน บริษัท WinSun Decoration Design Engineering จำกัด ระบุว่า การพิมพ์สามมิติจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการก่อสร้าง โดยเฉพาะการประหยัดวัตถุดิบในการก่อสร้างไป 60 % และใช้แรงงานน้อยกว่ากันมาก

เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา บริษัทนี้ เคยสร้างบ้านด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จำนวน 10 หลัง ขนาด 200 ตารางเมตร ที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยใช้วัตถุดิบเป็นเศษคอนกรีต ใช้เวลาสร้าง24 ชั่วโมง ต้นทุนในการก่อสร้างต่อหลัง 4,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 153,600 บาท ปัจจุบันมียอดจอง 20,000 หลัง จากรัฐบาลอียิปต์

ปัจจุบันบริษัทนี้มีสิทธิบัตรด้านลิขสิทธิ 98 รายการ เช่นไฟเบอร์กลาส แผ่นยิปซัมอัดแข็ง และปูนซีเมนต์พิเศษผสมใยแก้ว ประสบการณ์ในวงการก่อสร้าง ทำให้สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อใช้ร่วมเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้เป็นอย่างดี

แห่ถือใบเสร็จค่าปรับตำรวจกินก๋วยเตี๋ยวฟรี!! ลูกค้าชอบ-ไอเดียโดนใจคนถูกตร.จับ

4.3.58

โดยข่าวสด เมื่อ 3 มี.ค.2558

จากกรณีสื่อมวลชนประโคมข่าว พ่อค้าหัวใส ไอเดียกระฉูด คืนความสุขให้คนถูกตำรวจจับคดีจราจร โชว์ใบสั่งกินก๋วยเตี๋ยวฟรี 30 คนต่อวัน ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 3 มี.ค. ที่

ร้าน “ล้านเตี๋ยวมั๊ยว๊ะ” ตั้งอยู่ริมถนนไปหัวทะเล ข้างโรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์ เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา

โดยพบประชาชน ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน นักเรียน นักศึกษา ได้ทยอยมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศคึกคักช่วงก่อนเที่ยง โต๊ะที่ตั้งไว้ข้างทางเดินเท้า จำนวน 5 โต๊ะ มีลูกค้าร่วม 20 คน นั่งกินก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟต์ ซึ่งมีทั้งเนื้อวัวและหมูน้ำตกกันอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนใหญ่จะจ่ายเงินสดมากกว่า นำใบเสร็จจากการชำระค่าปรับฯ มาแสดง ซึ่งเป็นการบ่งบอกร่วมแรง ร่วมใจ แสดงสัญลักษณ์ไม่พอใจตำรวจที่ขยันตั้งด่านจราจร

นายสิริทัศน์ สมเสงี่ยม อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน “ล้านเตี๋ยวมั้ยว๊ะ”

เปิดเผยว่า พบลูกค้าใช้สิทธิ์นำใบเสร็จฯ ที่ไปชำระค่าปรับตามใบสั่ง มาแสดง 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและผู้ใช้แรงงาน

จากการสอบถาม จ่ายเงินค่าปรับ 200 บาท จึงไม่มีเงินซื้ออาหารมื้อเที่ยง ทราบข่าวจากสื่อ จึงมาใช้บริการ ขณะนี้กระแสตอบรับดีมากๆ ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้หลายเท่าตัว เดิมไม่มีใครรู้จักเลย

อย่างไรก็ตามขอเชิญชวนแข่งขันกินก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟ่ต์ เฟ้นหาแชมป์กินจุ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ค่าสมัคร 199 บาท เงินรางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 3,000 บาท 2,000 บาท และ 1,000 บาท ตามลำดับ พร้อมบัตรรับประทานก๋วยเตี๋ยวฟรี 1 เดือน

นายศิริพงษ์ มณีสว่าง อายุ 30 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) กล่าวว่า ทราบข่าวจึงได้ชักชวนเพื่อนครูในสถานศึกษามาลองชิม และช่วยกันอุดหนุนพ่อค้าน้ำใจงาม คืนความสุขให้คนถูกตำรวจจับ เพียงแสดงใบเสร็จที่ถูกปรับข้อหาละ 200 บาท มาใช้สิทธิกินก๋วยเตี๋ยวได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องอดข้าว

สิบเอกมนตรี รอดเสถียร นายทหารสังกัด ร.3 พัน2 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี กล่าวว่า ขอชื่นชมแนวความคิดความแปลกใหม่โดนใจคนถูกตำรวจจับ

ส่วนรสชาติจัดจ้านตามความชอบของคนท้องถิ่น หากถามว่าอร่อยไหม ตนกิน 7 ชาม จนอิ่ม หากสถานที่กว้างขวางมากกว่านี้ จะมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมากกว่านี้อีก

นายนฤเบศร์ เอื้อกูลวราวัตร์ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า ตนใช้สิทธินำใบเสร็จค่าปรับมาแสดง เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวฟรี ปัจจุบันได้เงินจากผู้ปกครอง มาใช้จ่ายวันละ 150 บาท ช่วงสายที่ผ่านมา เพื่อนร่วมห้องขอนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระในตัวเมือง ถูกเจ้าหน้าที่จับข้อหาคนนั่งซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัยถูกปรับ 200 บาท

ระหว่างรอเสียค่าปรับที่ สภ.เมือง อ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าวดังกล่าว นับเป็นโชคดีที่มื้อเที่ยงไม่ต้องยืมเงินเพื่อนซื้อข้าวกิน จึงได้ตระเวนตามหา จนพบร้านที่ตั้งอยู่ริมถนน ห่างจากโรงพักประมาณ 300 เมตร สมหวังกินก๋วยเตี๋ยวฟรีตามเงื่อนไข ขอบคุณน้ำใจพ่อค้าที่เห็นใจคนถูกจ่าจับด้วย ฝากถึงตำรวจโคราช ทำไมขยันตั้งด่าน น่าจะเอาเวลาไปตามจับพวกลักทรัพย์ตามหอพัก และขายยาบ้าจะดีกว่า

ด้าน พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมือง อ.เมือง ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามข่าวสารเป็นกลยุทธ์การตลาดสร้างแรงจูงใจ โดยจับกระแสข่าวตำรวจโคราช ขยันตั้งด่าน จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด

“หนุ่มวิศวกร” เบนเข็มทำเกษตรปลูกตะไคร้ สร้างรายได้เงินล้านในพริบตา

15.2.58

โดยผู้จัดการ เมื่อ 1 ธันวาคม 2557

http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000137249

'กล้วยทอดติดล้อ' ดูดวงตัวเองปั้นธุรกิจรุ่ง

15.2.58

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 25 พ.ย.2557

http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000135492

Best Ham แซนด์วิชญี่ปุ่น มีดีที่ซอสครีมสดรสละมุน

15.2.58

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2557 09:06 น.

http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000076887

หนุ่มธนาคารลาออก!! ทอดปาท่องโก๋ขายดี-รวยได้ ใครสนใจพร้อมแนะเคล็ดอาชีพ

15.2.58

โดยข่าวสด เมื่อ 14 ก.พ.2558

วันที่ 14 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยังอภินันท์ โซเชียล ออฟฟิศเซ็นเตอร์ ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว หลังมีชาวบ้านบอกต่อกันมาอย่างหนาหูว่า ปาท่องโก๋ ของหนุ่มแบงค์ที่ลาออกมาเปิดขายปาท่องโก๋จนร่ำรวย หลังเดินทางไปถึง พบว่าเจ้าของร้านคือ นายอภินันท์ จูขวัญ กำลังทอดปาท่องโก๋ขายอยู่ที่หน้าร้านอย่างขะมักเขม้น ซึ่งที่ร้านดังกล่าวเปิดเป็นมินิมาร์ทเล็กๆ กะทัดรัด นอกจากนั้นยังแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านอินเตอร์เน็ต ให้น้องๆ นักเรียนได้มาเช่าทำรายงานส่งครูอีกด้วย

นายอภินันท์เล่าว่าตนเรียนจบปริญญตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และได้สอบเข้าเป็นพนักงานธนาคารกสิกรไทย หลังจากทำงานมาได้หลายปี ก็รู้สึกเบื่อและเงินเดือนไม่ค่อยเหลือ จึงชักชวนภรรยา ออกมาเปิดร้านมินิมาร์ท และขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่งที่หน้าร้านมินิมาร์ทด้วย ตอนหลังตนไปเห็นเครื่องทำปาท่องโก๋ที่เชียงใหม่ มีลักษณะแปลก เมื่อนำลงไปทอดแล้วมีรถชาดกรอบน่ารับประทาน จึงได้สั่งซื้อเครื่องมา 1 เครื่อง ในราคา 4 หมื่นบาท

ช่วงแรกๆก็มีคนมาซื้อกินประปราย แต่เมื่อมีคนซื้อไปกินแล้วก็ติดใจ กลับมาซื้อกันทุกวัน จนโด่งดังต้องทำทอดขายกันทั้งวัน โดยราคาปาท่องโก๋ ของนายอภินันท์ ขายเป็นชุดๆละ 6 ตัว พร้อมมีแยมสังขยา ช็อคโกแลต แถมให้ไปทานกับปาท่องโก๋ด้วย ในราคาชุดละ 25 บาท

นายอภินันท์ กล่าวว่า หากใครจะนำไปทำขายก็สามารถมาดูได้ ตนยินดีแนะนำให้ ซึ่งในแต่ละวันตนเองมีรายได้ จากการขายปาท่องโก๋ ประมาณวันละ 2500-3,000 บาท ก็ถือได้ว่าเป็นรายได้ที่ดีเนื่องจากเป็นตลาดบ้านนอก ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมาก และเรายังสามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้อีก

ไทยมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมอันดับ48 ของโลก

5.1.58

โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554

ผลการสำรวจดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2554 ไทยได้อันดับ 48 จาก 125 ประเทศ ที่มีการพัฒนาด้านนวัตกรรม

นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2554 (Global Innovation Index 2011) ที่จัดทำโดย The Business School of the World ซึ่งเป็นการสำรวจและจัดลำดับความสามารถทางนวัตกรรมของประเทศต่างๆ 125 ประเทศทั่วโลก พบว่า

ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 48 โดยมี

สวิสเซอร์แลนด์เป็นอันดับ 1 ส่วน

อันดับ 2 คือ สวีเดน

อันดับ 3 คือ สิงคโปร์

ขณะที่

สหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 7,

เกาหลีอันดับที่ 16,

ญี่ปุ่นอันดับที่ 20,

จีนอันดับที่ 29,

มาเลเซียอันดับที่ 31,

เวียดนามอันดับที่ 51 และ

อินเดียอันดับที่ 62 เป็นต้น

สำหรับดัชนีนวัตกรรมโลก วัดจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการพัฒนานวัตกรรม เช่น สภาพแวดล้อมทางการเมือง, กฎระเบียบของรัฐ, สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ, การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และการวิจัย, โครงสร้างพื้นฐาน, ข้อมูลการส่งออก และประสิทธิภาพทางด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงจำนวนผู้ยื่นขอจดสิทธิบัตร, ผู้ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้า และจำนวนผู้ยื่นขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาผ่านระบบ PCT และ Madrid Protocol

ในรายงานระบุว่า ขณะนี้ประเทศเศรษฐกิจใหม่ เช่น จีน อินเดีย และเกาหลี ได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่มการลงทุนในนวัตกรรมในอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นดีไซน์ที่ประเทศใหม่ๆ เหล่านี้เริ่มมีบทบาทนำในตลาดมากขึ้น จากเดิมมีแต่นักออกแบบจากประเทศแถบยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เป็นผู้นำ

นางปัจฉิมา กล่าว ‘นักออกแบบรุ่นใหม่เหล่านี้ได้นำนวัตกรรมและวัฒนธรรมท้องถิ่นมาผสมผสานกับโลกยุคใหม่ เกิดเป็นรูปแบบใหม่ รวมถึงมีการนำนวัตกรรมมาผสมผสานกับการออกแบบ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น การผลิตสิ่งทอ หรือ เครื่องนุ่งห่มอัจฉริยะ เช่น เนคไท หรือเสื้อที่สามารถวัดการเต้นของหัวใจ และเป็นเครื่องมือรายงานสุขภาพของผู้ใส่ เป็นต้น’

วัดกันไปเลย! คนขับแท็กซี่ใน Chicago และทางการ Washington DC เตรียมทำแอพเรียกรถแข่งกับ Uber

15.12.57

โดย https://www.blognone.com/node/63851

ไหนๆ ก็ยากที่จะปราม Uber อยู่แล้ว ดังนั้นกลุ่มสหภาพคนขับรถแท็กซี่ใน Chicago และคณะกรรมการรถแท็กซี่ของ Washington DC จึงมีใจคิดตรงกันว่าควรจะทำแอพเรียกใช้บริการรถมาแข่งกับ Uber มันซะเลย

ทางฝั่ง Chicago ซึ่งมีคนขับรถแท็กซี่วิ่งให้บริการในเมืองราว 7,000 คน จะร่วมกันให้บริการวิ่งรับผู้โดยสารที่เรียกใช้บริการผ่านแอพที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยข้อตกลงในกลุ่มสหภาพที่จะช่วยกันผลักดันแอพนี้มีการจูงใจผู้ขับด้วยการลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้นว่า ลดค่าเช่ารถลง 15% - 25% สำหรับผู้ขับที่ใช้รถไฮบริดหรือรถพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มส่วนแบ่งค่าโฆษณาจากแพลตฟอร์มให้แก่คนขับที่ร่วมโครงการแอพของสหภาพด้วย ในขณะที่มาตรการจูงใจลูกค้าให้เลือกใช้บริการก็มีเช่นกัน ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าโดยสารซึ่งจะลดจาก 5% เหลือ 3%

ฟาก Washington DC ก็มีการผลักดันจากด้านฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นโดยคณะกรรมการรถแท็กซี่ของเมือง โดยประกาศว่าจะมีการสร้างแอพเรียกรถเริ่มให้บริการในเดือนมีนาคมปีหน้า งานนี้จะมีคนขับรถแท็กซี่ที่ให้บริการอยู่ก่อนแล้วในเมืองราว 7,000 คันมาร่วมโครงการ โดยทางการ Washington DC จะยังคงอนุญาตให้ผู้ประกอบการอย่าง Uber และ Lyft ทำธุรกิจแข่งขันไปพร้อมกันได้

ข่าวนี้น่าสนใจในแง่ที่ว่าผู้ให้บริการรถแท็กซี่แบบเดิมๆ และหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลกิจการในด้านนี้ ได้เลือกตัดสินใจดำเนินการอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเห็นด้วยว่าการที่พวกเขาเลือกเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางธุรกิจและหันมาสู้ด้วยการยกคุณภาพบริการของตนเองย่อมส่งผลดีต่อผู้ใช้บริการในภาพรวมอย่างแน่นอน

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)