'มือปราบ'แก๊งผลิตสินค้าปลอม

8.11.54
โดยกรุงเทพธุรกิจ เมื่อ 31 ต.ค.2554

อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวอเมริกันคนนี้เขาบริษัทนักสืบที่เมืองจีน มีความเชี่ยวชาญเรื่องการปลอมตัว เพื่อตามหาร่องรอยการผลิตสินค้าปลอม

ขวดวิสกี้ตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะทำงานของ

'เทด คาเวารัส' 

ในสำนักงานที่ฮ่องกง ซึ่งของเหล่านี้ไม่ได้นำมาไว้เพื่อดื่มระหว่างการทำงาน แต่คือสินค้าปลอม ที่เจ้าตัวมีส่วนช่วยเข้าไปปิดกิจการของผู้ผลิตวิสกี้ปลอมเมื่อไม่นานมานี้

คาเวารัส และบริษัทนักสืบของเขา "พาโนรามิค คอนซัลติ้ง" วุ่นอยู่กับการต่อสู้กับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าปลอม, สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีการว่าจ้างเข้ามาที่บริษัทเป็นจำนวนมาก และเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตสูง โดยในประเทศจีนอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าปลอมมีขนาดมหึมา โดย คาเวารัส จะทำทีเป็นผู้ซื้อ เข้าไปในโรงงาน และรวบรวมหลักฐานที่สามารถนำไปสู่โทษปรับ การจับกุมและปิดกิจการผิดกฎหมาย

เมื่อออกปฏิบัติงานครั้งใด เขาและทีมงานจะออกจากสำนักงานที่แสนจะรกรุงรัง พร้อมเครื่องประดับแวววาว แต่มีกล้องซ่อนอยู่ภายใน มุ่งตรงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ในรูปลักษณ์ของนักธุรกิจจากตะวันออกกลาง ค่อนไปทางพ่อค้าชาวยุโรปหรือละตินอเมริกาที่ต้องการหาซื้อสินค้าอย่างเร่งด่วน

"ลักษณะของผมจะเป็นเหมือนเหยื่ออันโอชะ และยิ่งทำได้แนบเนียนเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งเชื่อมากขึ้นเท่านั้น" อดีตเจ้าหน้าที่กรมตำรวจของรัฐนิวยอร์ก กล่าว

โดยพาโนรามิค รับงานประเภทนี้มากขึ้น ในขณะที่จีนไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตสินค้าของโลกเท่านั้น แต่การผลิตมากกว่า 2 ใน 3 เป็นการผลิตสินค้าปลอม ซึ่งบ่อยครั้งที่ คาเวารัส ทำงานในนามของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง เช่น

- ชุดกีฬา นิว บาลานซ์ และ
- นาฬิกา บูโลวา

เขาจะรวมคดีเข้าด้วยกัน เพื่อต่อสู้กับผู้ผลิตสินค้าปลอม ซึ่งจะมีตั้งแต่

- โถส้วม

ไปจนถึง

- กระเป๋าถือ และ
- ยารักษาโรค


"สิ่งที่ผมทำเป็นสิ่งที่นักสืบชาวจีนทำไม่ได้ เพราะผมเป็นลูกผสมมีหลายเชื้อชาติ ขณะที่นักสืบจีนไม่สามารถปลอมตัวเป็นผู้ซื้อที่มาจากต่างประเทศได้" คาเวารัส บอก นอกจากนี้ ยังต้องจัดฉากให้แนบเนียนสมกับเป็นผู้ซื้อจากต่างประเทศที่สนใจหาซื้อสินค้าแบรนด์ของจริง ทั้งยังมีเครื่องแฟกซ์ทำงานตลอดเวลาจากผู้ขายที่ส่งใบเสนอขายเข้ามาต่อเนื่อง

คาเวารัส ได้เปิดวิดีโอของคดีก่อนหน้านี้ให้ดู ซึ่งเขาและทีมงานล่อลวงกลุ่มผลิตยาปลอม โดยนัดพบในโรงแรมแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของจีน ซึ่งกลุ่มอาชญากรมีความไว้ใจพอที่จะนั่งลงเจรจากันสูบบุหรี่ และส่งสินค้าเพื่อแลกกับเงินสกุลต่างประเทศ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีตำรวจคอยดูเหตุการณ์อยู่อีกห้องข้างๆ ผ่านกล้องวงจรปิด เมื่อมีสัญญาณจากคาเวารัส ตำรวจก็กรูกันเข้าไปในห้อง พวกคนร้ายก็นั่งนิ่ง เพราะรู้ชะตากรรมตัวเองแล้ว

"จีนเป็นประเทศที่มีความศิวิไลซ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มพ่อค้าสินค้าปลอมเหล่านี้จะไม่เป็นอันตรายใดๆ เลย อย่างเช่น ยาปลอม ถือเป็นเหตุทำร้ายผู้คนไปทั่วโลกได้" เขากล่าว

ทั้งนี้ ประเทศจีนกำลังเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาจากนานาประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ที่มองว่าทางการยังไม่มีความพยายามมากพอในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าปลอม

มือปราบสินค้าปลอมรายนี้ บอกด้วยว่า แหล่งรวมสินค้าละเมิดฯ แหล่งใหญ่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะที่เมืองเซิ่นเจิ้น ซึ่งบรรดาพ่อค้าส่งจะทำการคัดเกรดสินค้ามีตั้งแต่ระดับเกรด เอ ถึงเกรด ซี สินค้าละเมิดฯ เกรดดีที่สุดนั้นจะผลิตมาจากโรงงานที่ผลิตของแท้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาครัฐทั้งตำรวจและหน่วยงานที่ดูแลด้านเครื่องหมายการค้ามีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหานี้ และต้องการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดทางให้สามารถดำเนินคดีแพ่งกับขบวนการผลิตสินค้าปลอม ทั้งยอมรับในหลักฐานของทนายฝ่ายโจทย์

"พวกเขาทำดีที่สุดแล้วจริงๆ แต่สินค้าปลอมเหล่านี้มีมากมายเหลือเกิน บางพื้นที่ก็กว้างใหญ่มากและประชากรหนาแน่น บางครั้งยังมีประเด็นเรื่องคอร์รัปชั่นอีก แต่ทั้งหมดนี้ทางการจีนก็ทำดีที่สุดแล้วเท่าที่จำทำได้" คาเวารัส กล่าวและว่า หลายฝ่ายอาจจะลืมว่าจีนคือประเทศยากจน

ขณะเดียวกันมีความต้องการซื้อสินค้าปลอมจากต่างประเทศจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุให้สินค้าเหล่านี้ผลิตออกมามากขึ้น

เขายกตัวอย่างอีกคดีเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับเสื้อผ้าแบรนด์ดัง แต่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ โดยเป็นคดีที่บริษัทแม่ในอัมสเตอร์ดัม และเวียนนา สืบหามาในระดับหนึ่งแล้วด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐของทั้งยุโรปและจีน จากนั้นบริษัทพาโนรามิคมาช่วยปิดคดี โดยบ่งชี้ผู้ผลิตรายใหญ่ 2 ราย ตลอดจนผู้ขายเสื้อผ้าปลอมในธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตชาวจีนอีก 30-40 แห่ง

ผลของคดีที่ว่านี้ ศุลกากรจับกุมสินค้าปลอมได้เป็นมูลค่ากว่า 3 แสนยูโร หรือ 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ และขึ้นบัญชีดำผู้ประกอบการผิดกฎหมายเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นการปิดคดีอย่างดีที่สุดแล้ว

สำหรับ คาเวารัส ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐนิวยอร์ค เขาได้รับบาดเจ็บจึงต้องเกษียณก่อนอายุ จากนั้นย้ายไปอยู่ในจีนเมื่อปี 1994 และเรียนภาษาจีนกลาง โดยเริ่มงานกับบริษัทนักสืบชื่อดังที่เมืองกวางโจว ก่อนจะย้ายไปฮ่องกง ที่ซึ่งเขาก่อตั้ง

พาโนรามิค เมื่อ 13 ปีก่อน

 ซึ่งนับว่าเขาเป็นบุคคลที่มีเทคนิคอันแพรวพราวในการปลอมตัวเป็นเจ้าของธุรกิจ แถมอ้างถึงเมียน้อยที่เป็นคนท้องถิ่น พร้อมอุปกรณ์ประกอบฉาก เช่น คบเพลิงโอลิมปิกที่อ้างว่ารัฐบาลปั่กกิ่งมอบให้เป็นของที่ระลึก

แต่เจ้าตัวก็ระมัดระวังที่จะไม่ไปแตะต้องนักการเมือง รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหาร หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เทคนิคสูง เช่น ปิโตรเลียม แต่เขาก็ไม่วายที่จะนำทีมเข้าไปทลายแก๊งคุมสินค้าปลอม เช่น บุหรี่

นอกจากนี้ คาเวารัส ยังเตือนไปถึงนักลงทุนจากต่างประเทศถึงความเสี่ยงการทำธุรกิจในจีนด้วยว่า ควรทำการบ้านมาก่อน เช่น

ตรวจสอบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า โดยดูว่ามีใครขโมยตราสินค้ามาจดทะเบียนก่อนหรือไม่

อีกทั้งควรจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ การออกแบบ รวมทั้งการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตนเองก่อนด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น